ลำพูน จังหวัดเล็กๆ ในภาคเหนือที่อยู่ไม่ไกลจากเชียงใหม่ เป็นเมืองเก่าแก่ที่เต็มไปด้วยเรื่องราวทางประวัติศาสตร์ที่น่าสนใจอีกเมืองหนึ่งในอาณาจักรล้านนา ปัจจุบันลำพูนมีศักยภาพด้านการท่องเที่ยวในเชิงศิลปวัฒนธรรมเป็นอย่างมาก มีแหล่งท่องเที่ยวทั้งวัดวาอาราม เจดีย์เก่าแก่ ศิลปะล้านนาแท้ที่มีลวดลายอันวิจิตรงดงาม อีกทั้งงานหัตถกรรมที่สั่งสมกันมาอย่างยาวนานจนเป็นสินค้าขึ้นชื่ออย่างผ้าไหมยกดอก วันนี้ GangTravel เราได้รวบรวมที่เที่ยวลำพูน 2567 เสน่ห์แห่งดินแดนล้านนา ที่คุณควรไปสัมผัสสักครั้ง มาฝากกัน จะมีที่ไหนน่าตามไปเช็กอินบ้างตามไปดูกันเลย
1. วัดพระธาตุหริภุญชัย วรมหาวิหาร
ที่เที่ยวลำพูน วัดพระธาตุหริภุญชัย วรมหาวิหาร ตั้งอยู่ใจกลางเมืองลำพูน มีพระธาตุหริภุญชัย เป็นปูชนียสถานอันสำคัญยิ่งในล้านนามาตั้งแต่สมัยโบราณ สร้างขึ้นเมื่อ พ.ศ. 1651 และยังเป็นพระธาตุประจำปีเกิดชาวปีระกาด้วย แม้องค์จะไม่ใหญ่โตแต่สร้างขึ้นด้วยทรวดทรงที่สมส่วน และงดงามด้วยประกายทองจังโกที่สะท้อนเปลวแดดขับให้องค์พระธาตุดูโดดเด่น ท่ามกลางวิหารอื่นๆ นอกจากนี้ภายในวัดยังมีพิพิธภัณฑ์ที่จัดแสดงศิลปวัตถุมากมาย อีกทั้งในวันเพ็ญเดือน 6 จะมีงานนมัสการและสรงน้ำพระบรมธาตุทุกปี
ที่อยู่ : ถนนชัยมงคล (ใจกลางเมืองลำพูน) ต.ในเมือง อ.เมืองลำพูน จ.ลำพูน
เวลาเปิด – ปิด : ทุกวัน 07.00 – 18.00 น.
เบอร์โทร : 053-563-612
เว็บไซต์ : –
เฟซบุ๊ก : facebook.com/วัดพระธาตุหริภุญชัย วรมหาวิหาร จังหวัดลำพูน
===GoogleAdsense===
2. พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติหริภุญไช
พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติหริภุญไช ตั้งอยู่เยื้องกับวัดพระธาตุหริภุญชัย ภายในพิพิธภัณฑ์จัดแสดงโบราณวัตถุแบ่งเป็น 3 ห้อง คือห้องจัดแสดงใหญ่ เป็นห้องโถงยาวอยู่ชั้นบนของตัวอาคารมีการจัดแสดงวัตถุออกเป็น 3 สมัย คือสมัยก่อนหริภุญไชย สมัยหริภุญไชย และสมัยล้านนา ได้แก่ พระพุทธรูป เศียรพระพุทธรูป พระพิมพ์ และเทวดา เป็นต้น, ห้องจัดแสดงศิลปพื้นบ้านและเครื่องไม้จำหลัก เป็นห้องจัดแสดงเล็กที่อยู่อาคารเล็กชั้นเดียวมีโถงเชื่อมจากชั้นบนของอาคารหลังใหญ่ วัตถุที่แสดงเป็นศิลปะสมัยล้านนา รัตนโกสินทร์ แสดงออกถึงภูมิปัญญาท้องถิ่น เช่น เครื่องใช้ในครัวเรือน เครื่องมือตีเหล็ก เครื่องมือทอผ้า เครื่องดนตรีพื้นบ้าน พานดอกไม้เชี่ยนหมาก เป็นต้น และห้องศิลาจารึก เป็นห้องโถงเปิดโล่งอยู่ชั้นล่างของตัวอาคาร จัดแสดงศิลาจารึกสมัยหริภุญไชย ราวพุทธศตวรรษที่ 17 และศิลาจารึกสมัยล้านนา สมัยพุทธศตวรรษที่ 20 เป็นต้นไป
ที่อยู่ : 122 ถนนอินทยงยศ ตำบลในเมือง อำเภอเมืองลำพูน จังหวัดลำพูน
เวลาเปิด – ปิด : ทุกวัน 09.00 น. -16.00 น. (ปิดวันจันทร์ วันอังคาร และวันหยุดนักขัตฤกษ์)
เบอร์โทร : 053-511-186
เว็บไซต์ : www.virtualmuseum.finearts.go.th
เฟซบุ๊ก : facebook.com/พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ หริภุญไชย ลำพูน
3. อุทยานแห่งชาติแม่ปิง
ที่เที่ยวลำพูน อุทยานแห่งชาติแม่ปิง มีพื้นที่ครอบคลุม 3 จังหวัดได้แก่ เชียงใหม่ ลำพูน และจังหวัดตาก ป็นป่าที่อุดมไปด้วยทรัพยากรธรรมชาติป่าไม้และสัตว์ป่า มีทิวเขาทอดยาวเหยียดสลับซับซ้อน ลำห้วยน้อยใหญ่หลายสิบสาขาไหลผ่านที่สำคัญ คือ ลำห้วยแม่หาด ลำห้วยแม่ก้อ และทิวทัศน์ธรรมชาติที่สวยงามโดยเฉพาะพื้นที่ป่าตั้งอยู่ทางฝั่งซ้ายของลำน้ำปิงตอนเหนือของอ่างเก็บน้ำเขื่อนภูมิพล มีสถานที่ท่องเที่ยว เช่น น้ำตกก้อหลวง เป็นน้ำตกที่มีความสวยงามมาก เกิดจากลำห้วยแม่ก้อซึ่งไหลผ่านเทือกเขาหินปูนลดหลั่นลงมา 7 ชั้น ลงสู่แอ่งน้ำสีเขียวมรกตขนาดใหญ่ , แก่งก้อ เป็นทะเลสาบส่วนหนึ่งของอ่างเก็บน้ำเขื่อนภูมิพล และทุ่งกิ๊ก ทุ่งหญ้าธรรมชาติกว้างใหญ่ซึ่งอยู่ท่ามกลางป่าเต็งรังและป่าเบญจพรรณ นอกจากนี้ ยังมีเส้นทางเดินศึกษาธรรมชาติและดูนก ซึ่งนกที่พบเห็นได้ง่าย เช่น นกหัวขวาน ฯลฯ
ที่อยู่ : ตำบลแม่ลาน อำเภอลี้ จังหวัดลำพูน
เวลาเปิด – ปิด : ทุกวัน 08.00 – 16.00 น.
เบอร์โทร : 052-030-380
เว็บไซต์ : –
เฟซบุ๊ก : facebook.com/อุทยานแห่งชาติแม่ปิง – Mae Ping National Park
===GoogleAdsense===
4. วัดพระพุทธบาทตากผ้า
วัดพระพุทธบาทตากผ้า เป็นปูชนียสถานสำคัญของจังหวัดลำพูน ตั้งอยู่ระหว่างดอยม่อนช้างกับดอยเครือ นับถือกันว่าเป็นรอยพระบาทของพระพุทธเจ้าที่มาประทับไว้ตรงบริเวณที่นำผ้าจีวรมาตาก มีรอยตารางบนผาหินที่เชื่อว่าคือรอยตากผ้าจีวร บนม่อนดอยเบื้องหลังวัดได้มีการสร้างพระเจดีย์ ซึ่งเป็นศิลปะที่ผสมผสานจากพระธาตุดอยสุเทพและพระธาตุหริภุญชัย โดยมีบันไดนาค 469 ขั้น เชื่อมระหว่างเจดีย์บนม่อนดอยกับวัดพระบาทตากผ้าที่เชิงดอย ปัจจุบันสามารถนำรถขึ้นไปได้เมื่อถึงวันอัฐมีบูชา แรม 8 ค่ำ เดือนแปด ซึ่งเป็นวันคล้ายวันถวายพระเพลิงพระสรีระของสมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ที่วัดมีประเพณีสรงน้ำพระพุทธบาทเป็นประจำทุกปี
ที่อยู่ : 279 หมู่ 6 บ้านพระบาท ตำบลมะกอก อำเภอป่าซาง จ.ลำพูน
เวลาเปิด – ปิด : ทุกวัน
เบอร์โทร : 053-005-200
เว็บไซต์ : www.phrabat.com
เฟซบุ๊ก : facebook.com/วัดพระพุทธบาทตากผ้า
5. วัดพระยืน
ที่เที่ยวลำพูน วัดพระยืน อีกหนึ่งวัดเก่าแก่ของลำพูน แต่เดิมชื่อว่า วัดพฤทธมหาสถาน มีโบราณสถานที่สำคัญ คือ พระเจดีย์พระยืน เป็นศิลปกรรมพม่า ทรงมณฑป เครื่องบนประกอบด้วยเจดีย์ห้ายอด โดยมีเจดีย์ทรงระฆังและเจดีย์ทรงกลมขนาดเล็กเป็นประธาน คล้ายกับอานันทเจดีย์ที่เมืองพุกาม และพระเจดีย์วัดป่าสัก จังหวัดเชียงราย เป็นเจดีย์ที่มีความสวยงามมาก
ที่อยู่ : 1 บ้านพระยืน หมู่ 1 ตำบลเวียงยอง อำเภอเมืองลำพูน ลำพูน
เวลาเปิด – ปิด : ทุกวัน
เบอร์โทร : 053-530-755 , 097-919-2514
เว็บไซต์ : –
เฟซบุ๊ก : facebook.com/วัดพระยืน จังหวัดลำพูน
===GoogleAdsense===
6. อนุสาวรีย์ครูบาศรีวิชัย
อนุสาวรีย์ครูบาศรีวิชัย ตั้งอยู่เชิงดอยติ บริเวณวัดดอยติ ตำบลป่าสัก ห่างจากตัวเมืองลำพูนประมาณ 5 กิโลเมตร ตามถนนสายเชียงใหม่-ลำปาง พระครูบาศรีวิชัยเป็นพระเถรเจ้านักพัฒนาแห่งล้านนาไทย ผู้พัฒนาทั้งด้านจิตใจและด้านถาวรวัตถุให้แก่ชาวล้านนาไว้อย่างอเนกอนันต์ ท่านมีชีวิตอยู่ในช่วงปี พ.ศ. 2421-2481 ถิ่นฐานบ้านเดิมของท่านอยู่ที่บ้านแม่ตื่น อำเภอลี้ จึงเป็นความภูมิใจอย่างใหญ่หลวงของชาวลำพูน ที่เมืองนี้เป็นบ้านเกิดเมืองนอนของนักบุญผู้ยิ่งใหญ่แห่งล้านนา
ที่อยู่ : สามแยกดอยติ ถนนเชียงใหม่-ลำปาง อำเภอเมืองลำพูน จังหวัดลำพูน
เวลาเปิด – ปิด : ทุกวัน
เบอร์โทร : 053-248-604 , 053-248-607, 053-302-500
เว็บไซต์ : –
เฟซบุ๊ก : –
7. วัดจามเทวี
วัดจามเทวี หรือที่ ชาวบ้านเรียกกันว่า วัดกู่กุด เป็นวัดเก่าแก่ที่สำคัญมา ตั้งแต่สมัยล้านนาไทย ที่มีความสําคัญทั้งทางด้านประวัติศาสตร์ และโบราณคดีตามหลักฐานที่ได้พบศิลาจารึกเชื่อว่า พระราชโอรส ของพระนางจามเทวีคือ พระเจดีย์มหันตยศ และพระเจ้าอนันตยศโปรดให้สร้างวัดนี้ขึ้นเพื่อถวายพระเพลิง แล้วโปรดให้สร้าง เจดีย์เหลี่ยมมียอดหุ้มด้วยทองทองเรียกชื่อว่า สุวรรณจังโกฏิ พระเจดีย์สุวรรณจังโกฏิ หรือพระเจดีย์จามเทวี เป็นเจดีย์สี่เหลี่ยมแบบ พุทธคยาในประเทศอินเดีย แต่ละด้านมีพระพุทธรูปยืนปางประทานพรอยู่เป็นชั้นๆพรศิลปกรรมของลพบุรีมีพระพุทธรูปยืนปางประทานพร อยู่ในซุ้มพระทั้งสี่ด้านด้านละ 15 องค์ รวม 60 องค์ ภายในพระเจดีย์บรรจุอัฐิของพระนางจามเทวี ปฐมกษัตริย์ แห่งนครหริภุญชัย ต่อมาจะเป็นสมัยใดไม่ทราบแน่ชัดยอดพระเจดีย์ได้หักหายไป ชาวบ้านจึงเรียกว่ากู่กุดพระเจดีย์ องค์นี้มีชื่อเป็น ทางการว่า พระเจดีย์สุวรรณจังโกฎ พระเจดีย์องค์นี้ ถือเป็นแบบสถาปัตยกรรมที่มีความสําคัญในศิลปกรรมหริภุญชัย
ที่อยู่ : ถนนจามเทวี ตำบลในเมือง อำเภอเมืองลำพูน จ.ลำพูน
เวลาเปิด – ปิด : ทุกวัน 08.00 – 17.00 น.
เบอร์โทร : –
เว็บไซต์ : –
เฟซบุ๊ก : –
===GoogleAdsense===
8. วัดพระพุทธบาทห้วยต้ม
วัดพระพุทธบาทห้วยต้ม เป็นวัดที่ใหญ่ที่สุดในอำเภอลี้และยังเป็นวัดประจำหมู่บ้านของชาวปาเกอะญออีกด้วย บริเวณทางเข้าวัดจะมีอนุสาวรีย์พระครูบาชัยวงศาตั้งอยู่ ภายในมีเอกลักษณ์ที่สวยงามด้วยเอกลักษณ์ล้านนา ทำจากศิลาแลงที่ขุดได้จากบ่อศิลาแลง ด้านหลังของวัด สถานที่สำคัญได้แก่ วิหารพระเมืองแก้ว ที่องค์พระธาตุได้รับการตกแต่งอย่างงดงาม เป็นสถานที่บรรจุสรีระทิพย์ของหลวงปู่ครูบาชัยวงศาพัฒนา
ที่อยู่ : หมู่ที่ 8 ตำบลนาทราย อำเภอลี้ จังหวัดลำพูน
เวลาเปิด – ปิด : ทุกวัน
เบอร์โทร : 093-194-8577
เว็บไซต์ : –
เฟซบุ๊ก : facebook.com/เจดีย์ วัดพระพุทธบาทห้วยต้ม อ.ลี้ จ.ลำพูน
9. วัดพระธาตุดอยเวียง
วัดพระธาตุดอยเวียง เป็นที่ประดิษฐานของเจดีย์เก่าแก่ซึ่งมีพระธาตุบรรจุอยู่ตามประวัติสันนิษฐานว่า สร้างเมื่อ พ. ศ. 1220 ซึ่งตรงกับสมัยของพระนางจามเทวีปฐมกษัตริย์เจ้านครเมืองลำพูนตามตำนานจารึกในใบลานเล่าว่าขุนหลวงปาละวิจา มาตั้งเมืองที่นี่ซึ่งเป็นเมืองหน้าด่านและได้สร้างวัดไว้บนดอย ต่อมาถูกไฟป่าไหม้ลุกลามทำให้เหลือแต่เจดีย์และศาลาเล็ก ๆ หลังหนึ่ง วัดนี้ยังมีพระพุทธรูปเก่าแก่อีก 3 องค์ องค์แรกเป็นพระพุทธรูปทองสัมฤทธิ์ปางมารวิชัยหน้าตักกว้าง 29 นิ้ว มีเรื่องเล่าว่าครั้งหนึ่งฝนแล้ง ชาวบ้านเดือดร้อนเลยนำพระองค์นี้มาแห่ขอฝนปรากฏว่าฝนตก ชาวบ้านจึงพร้อมใจกันตั้งชื่อพระองค์นี้ว่า พระเจ้าสายฝน องค์ที่สองหน้าตักกว้าง 99 นิ้ว ประดิษฐานที่ศาลาการเปรียญ องค์ที่สามหน้าตักกว้าง 89 นิ้วประดิษฐานที่เชิงดอย ทั้งสององค์ข้างในเป็นศิลาแลงและข้างนอกฉาบปูน สมัยที่ค้นพบนั้นเหลือไม่เต็มองค์เศียรปักดินชาวบ้านจึงเรียกว่า “พระเจ้าดำดิน” ชั้นบนสุดของดอยเป็นที่ประดิษฐานของเจดีย์ธาตุดอยเวียง และทุก ๆ ปีในวันแรม 8 ค่ำ เดือน 7 จะมีประเพณีสรงน้ำพระธาตุ
ที่อยู่ : หมู่ที่ 9 ตำบลบ้านธิ อำเภอบ้านธิ จ.ลำพูน
เวลาเปิด – ปิด : ทุกวัน
เบอร์โทร : 081-950-9195
เว็บไซต์ : –
เฟซบุ๊ก : –
นี่ก็เป็น 9 ที่เที่ยวลำพูนที่เราได้รวบรวมนำมาฝากเพื่อนๆกัน บอกเลยว่าที่จังหวัดลำพูนยังมีที่เที่ยว ที่กิน อื่นๆที่น่าสนใจอีกมากมายที่รอให้คุณได้ออกไปสัมผัส รับประกันเลยว่าไปแล้วจะติดใจจนต้องอยากกลับมาเที่ยวใหม่อีกครั้งแน่นอน