ที่เที่ยวเดือนพฤษภาคม ถือเป็นช่วงต้นของฤดูฝน ซึ่งก็มีแหล่งท่องเที่ยวสวยๆ อยู่มากมาย ไม่ว่าจะเป็น ภูเขา ทะเล และประเพณีวัฒนธรรม ก็มีให้เที่ยวกันอย่างครบรสเลยทีเดียว ซึ่งวันนี้ GangTravel ก็ได้ทำการรวบรวมที่เที่ยวเดือนพฤษภาคม 2567 มาฝากทุกคนกัน ตามไปดูกันว่าจะมีที่ไหนโดนใจและน่าไปกันบ้าง
1. เทศกาลชมผีเสื้อแคมป์บ้านกร่าง แก่งกระจาน จังหวัดเพชรบุรี
สำหรับเทศกาลชมผีเสื้อแคมป์บ้านกร่าง แก่งกระจาน ที่จะมีให้ชมแบบเยอะ ๆ เพียงแค่ในเดือนพฤษภาคมนี้เท่านั้นสำหรับปีนี้ใครยังไม่ได้ไปชมความสวยงามของผีเสื้อหลากสีสันนับหมื่นตัวที่แก่งกระจาน วันหยุดนี้ก็เตรียมวางแผนเที่ยวได้เลยค่ะ
ที่อยู่ : ตำบล ห้วยแม่เพรียง อำเภอแก่งกระจาน เพชรบุรี
เวลาเปิด – ปิด : ทุกวัน 08.00 – 17.00 น.
เบอร์โทร : –
เว็บไซต์ : –
เฟซบุ๊ก : –
2. เทศกาลผลไม้ภาคตะวันออก 2565
สำหรับฤดูกาลแห่งการไปชิมผลไม้ไทยสุดอร่อยทางภาคตะวันออก ใครอยากกินทุเรียน มังคุด ลองกอง เงาะ สละ และอื่น ๆ แบบอิ่มจุใจ ได้กินสดใหม่ถึงในสวนในไร่ เตรียมตัวกันไว้ได้เลยค่ะ มีหลายสวนที่เริ่มเปิดให้ชมเข้าชมกันแล้ว ทั้งจากทางจังหวัดจันทบุรี ระยอง และตราด
ที่อยู่ : จังหวัดจันทบุรี ระยอง และตราด
เวลาเปิด – ปิด : ทุกวัน
เบอร์โทร : –
เว็บไซต์ : –
เฟซบุ๊ก : –
3. ชมโลมาสีชมพู อำเภอขนอม จังหวัดนครศรีธรรมราช
โลมาสีชมพู สัตว์ท้องทะเลที่หายากและใกล้สูญพันธุ์ แต่นักท่องเที่ยวสามารถพบเห็นได้ตลอดปีบริเวณอ่าวขนอม อำเภอขนอม จังหวัดนครศรีธรรมราช ด้วยท้องทะเลบริเวณนั้นเป็นมีความอุดมสมบูรณ์ และเหมาะแก่การอยู่อาศัยของโลมาสีชมพู ช่วงฤดูกาลที่น่าไปเที่ยวชมจะอยู่ในช่วงคลื่นลมสงบ ซึ่งทางอ่าวไทยก็จะน่าเที่ยวในช่วงราว ๆ พฤษภาคมไปจนถึงเดือนตุลาคม
ที่อยู่ : อำเภอขนอม จังหวัดนครศรีธรรมราช
เวลาเปิด – ปิด : ทุกวัน
เบอร์โทร : –
เว็บไซต์ : –
เฟซบุ๊ก : –
4. วังน้ำเขียว
วังน้ำเขียว เป็นสถานที่ซึ่งชื่อว่าเป็น สวิตเซอร์แลนด์แดนอีสาน ที่สามารถเที่ยวได้ตลอดปี มีอากาศที่บริสุทธิ์ เย็นสบาย มีทัศนียภาพของป่าขุนที่โอบล้อมให้มองอย่างสบายตา อีกทั้งยังเงียบสงบ เต็มไปด้วยเสน่ห์ นอกจากนี้ยังมีกิจกรรมน่าสนใจอีกเพียบ อาทิ “สวนผักปลอดสารพิษลุงไกร” ซึ่งเน้นการปลูกที่สดสะอาด เหมาะแก่การไปสัมผัส “สวนหน้าวัวสุชาดา” ที่มีดอกหน้าวัวสีสวยๆมากมาย จึงทำให้ที่แห่งนี้กลายเป็นที่เที่ยวยอดนิยมของเหล่านักท่องเที่ยวเป็นอย่างมาก
ที่อยู่ : ตำบลวังน้ำเขียว อำเภอวังน้ำเขียว จังหวัดนครราชสีมา
เวลาเปิด – ปิด : ทุกวัน
เบอร์โทร : –
เว็บไซต์ : –
เฟซบุ๊ก : –
5. อุทยานแห่งชาติเขาใหญ่
อุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ แหล่งธรรมชาติ อากาศบริสุทธิ์ ใกล้กรุงเทพฯ ยอดนิยมที่ใช้เวลาเดินทางไปไม่กี่ชั่วโมงเท่านั้น เป็นสถานที่ที่สามารถเที่ยวได้ตลอดปี ที่มีพื้นที่ป่าที่ใหญ่ที่สุดในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ มีสิ่งที่น่าสนใจอีกประการหนึ่งคือนกเงือก ซึ่งมีอยู่หลากหลายสายพันธุ์ เพราะมีสภาพป่าชุ่มฉ่ำ ทุ่งหญ้าเขียวขจีสดสวย รวมไปถึงน้ำตกที่ไหลแรงทุกแห่ง เหมาะกับการท่องเที่ยวศึกษาธรรมชาติอย่างแท้จริง ใครที่ต้องการสัมผัสกับธรรมชาติแบบใกล้ๆ เดินทางไม่นาน แนะนำเลย
ที่อยู่ : ตำบลหมูสี อำเภอปากช่อง จังหวัดนครราชสีมา
เวลาเปิด – ปิด : ทุกวัน 06.00 – 18.00 น.
เบอร์โทร : 086 092 6529
เว็บไซต์ : –
เฟซบุ๊ก : อุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ – Khao Yai National Park
6. สังขละบุรี จ.กาญจนบุรี
สังขละบุรี อำเภอเล็ก ๆ ในจังหวัดกาญจนบุรี ที่นี่เต็มไปด้วยธรรมชาติอันอุดมสมบูรณ์ ทั้งป่า เขา และสายน้ำ รวมถึงเรื่องราววัฒนธรรมของชาวไทย-มอญ และสถานที่ท่องเที่ยวศักดิ์สิทธิ์ ที่น่าสนใจมากมาย แต่ที่เป็นไฮไลท์ก็คือ สะพานมอญ สะพานไม้ที่ยาวที่สุดในประเทศไทย เป็นสะพานที่ข้ามแม่น้ำซองกาเรีย ที่ตำบลหนองลู อำเภอสังขละบุรี จังหวัดกาญจนบุรีสะพานมอญ นับได้ว่าเป็นหนึ่งในจุดชมวิวทะเลสาบเขื่อนวชิราลงกรณ์ และจุดชุมแสงอาทิตย์ในยามเช้าที่สวยงาม
ที่อยู่ : อ. สังขละบุรี จ.กาญจนบุรี
เวลาเปิด – ปิด : ทุกวัน
เบอร์โทร : –
เว็บไซต์ : –
เฟซบุ๊ก : –
7. เขื่อนรัชชประภา จังหวัดสุราษฎร์ธานี
สถานที่ท่องเที่ยวทางธรรมชาติที่สามารถเที่ยวชมได้ตลอดทั้งปี โดยเฉพาะในช่วงต้นฤดูฝน ที่อากาศกำลังเย็นสบาย มีสายฝนประปรายคอยให้ความชุ่มฉ่ำตลอดทั้งวัน ยามเช้าบรรยากาศจะเงียบสงบ อากาศสดชื่น ถ้าใครได้มานอนค้างบนแพในเขื่อน ก็จะได้ตื่นมาพบกับธรรมชาติทที่สวยงามเกินบรรยาย
ที่อยู่ : ตำบลเขาพัง อำเภอบ้านตาขุน สุราษฎร์ธานี
เวลาเปิด – ปิด : ทุกวัน
เบอร์โทร : –
เว็บไซต์ : –
เฟซบุ๊ก : –
8. ภูลังกา จ.พะเยา
วนอุทยานภูลังกา เป็นที่เที่ยวพะเยา ที่มีชื่อเสียงของอำเภอเชียง และอำเภอปง มีลักษณะเป็นเทือกเขาสูงสลับซับซ้อนที่มีความงดงามเป็นอย่างมาก เหมาะสำหรับผู้ที่ชอบเดินป่าพิชิตยอดเขาสูง ซึ่งช่วงที่เหมาะสมที่สุดในการชมทัศยนีภาพจะเป็นช่วงฤดูหนาว โดยมีจุดชมวิวที่ได้รับความนิยม คือ ยอดดอยภูลังกา และดอยภูนม ที่สามารถชมพระอาทิตย์ขึ้นและตก พร้อมทั้งโอบกอดทะเลหมอกได้ฟินๆกันเลยทีเดียว
ที่อยู่ : ตำบลช้างน้อย อำเภอปง จังหวัดพะเยา
เวลาเปิด – ปิด : ทุกวัน
เบอร์โทร : –
เว็บไซต์ : –
เฟซบุ๊ก : –
9. เขาค้อ จ.เพชรบูรณ์
อย่างที่ทราบกันดีอยู่แล้วว่า เขาค้อ นั้นมีอากาศหนาวเย็นตลอดทั้งปี จึงสามารถไปเที่ยวได้ตลอดทั้งปี ยิ่งในช่วงหน้าหนาวยิ่งบรรยากาศดีมากๆ นอกจากนี้เขาค้อนั้นมีทัศนียภาพสวยงาม และมีจุดท่องเที่ยวต่างๆ อีกมากมาย อาทิ อนุสาวรีย์จีนฮ่อ พิพิธภัณฑ์อาวุธ อนุสรณ์สถานผู้เสียสละเขาค้อ พระบรมธาตุเจดีย์ พระตำหนักเขาค้อ วัดพระธาตุผาซ่อนแก้ว และที่เที่ยวธรรมชาติ จุดชมทะเลหมอก สวยๆ อีกเพียบเลยค่ะ
ที่อยู่ : ตำบลเขาค้อ อำเภอเขาค้อ จังหวัดเพชรบูรณ์
เวลาเปิด – ปิด : ทุกวัน
เบอร์โทร : –
เว็บไซต์ : –
เฟซบุ๊ก : –
10. อุทยานแห่งชาติภูหินร่องกล้า จ.พิษณุโลก
อุทยานแห่งชาติภูหินร่องกล้า หนึ่งในที่เที่ยวพิษณุโลกยอดฮิต ที่เป็นจุดหมายปลายทางของนักท่องเที่ยวที่อยากจะสัมผัสกับธรรมชาติแบบใกล้ชิด ที่นี่มีบรรยากาศกาศดี เย็นสบาย สามารถเที่ยวได้ตลอดทั้งปี มีที่พักและลานกางเต็นท์ ให้บริการ อุทยานแห่งนี้มีเรื่องราวทางประวัติศาสตร์ที่น่าสนใจมากมาย และมีที่เที่ยวอีกหลายจุดที่มาแล้วต้องไปสัมผัสให้ได้ เช่น จุดชมวิวลานหินปุ่ม ลานหินแตก ผาชูธง เป็นต้น
ที่อยู่ : ตำบล เนินเพิ่ม อ. นครไทย จ.พิษณุโลก
เวลาเปิด – ปิด : ทุกวัน
เบอร์โทร : –
เว็บไซต์ : –
เฟซบุ๊ก : –
เป็นอย่างไรกันบ้างกับ 10 ที่เที่ยวเดือนพฤษภาคม ที่เรารวบรวมมาแนะนำกัน ใครกำลังมองหาที่เที่ยวชิลๆ ดื่มด่ำบรรยากาศกรีนๆ ก็ตามไปเช็กอินกันได้เลยค่ะ