แม้ว่าการระบาดของโรคโควิด-19 (Covid-19) นั้นยังไม่หมดไป แต่เรารู้กันดีว่านักเดินทางทั้งหลายนั้นตั้งตารอคอยการเปิดประเทศให้นักท่องเที่ยวได้บินไปเที่ยวยังเมืองต่างๆ ทั่วโลกมากมายขนาดไหน และเชื่อว่าหนึ่งในกิจกรรมที่หลายคนชื่นชอบก็คือการไปแช่ออนเซนที่ญี่ปุ่น แต่อันที่จริงแล้วบ่อออนเซน หรือว่าบ่อน้ำพุร้อนทั่วโลกนั้น ไม่ได้มีอยู่แค่ที่ญี่ปุ่นแค่เพียงอย่างเดียว ดังนั้นหากใครที่ชอบผ่อนคลายด้วยการแช่น้ำร้อนแบบฟินๆ ต้องตาม Traveloka มาลิสต์ 20 เมืองแช่ออนเซนสุดฟิน ที่คัดสรรมาแล้วจากทั่วทุกมุมโลก ไม่ใช่แค่ในเอเชียอย่างเดียว ถ้าหากว่าพร้อมขอแนะนำให้ลิสต์เอาไว้ก่อน แล้วพอโควิดหมดเมื่อไหร่ ก็ตามมาจองตั๋วเครื่องบินกันได้เลย > https://www.traveloka.com/th-th/flight
20 เมืองแช่ออนเซนทั่วโลก
1. หมู่บ้านออนเซนโบราณ (Ginzan Onsen)
หากใครชื่นชอบการแช่ออนเซน ทางเราขอแนะนำให้ลองไปเที่ยวที่หมู่บ้านออนเซนโบราณแห่งนี้ดู เพราะถือว่าเป็นแหล่งแช่ออนเซนที่โด่งดังมากที่สุดแห่งหนึ่งของประเทศญี่ปุ่น เดินทางไปเที่ยวง่ายเพราะฟรีวีซ่า ความโดดเด่นของหมู่บ้านออนเซนโบราณ คือมีอายุอานามมากว่า 100 ปีมาแล้วด้วยกัน ตั้งอยู่ภายในจังหวัดยามากาตะ แต่เดิมทีเคยเป็นเหมืองแร่มาก่อน และโด่งดังมากในเรื่องของบ่อน้ำพุร้อน หรือว่าออนเซน หากใครอยากที่จะมานอนที่หมู่บ้านออนเซนสักคืน แนะนำให้จองเรียวกังเลย เพราะคุณจะได้แช่ออนเซน และได้ลองนอนบนเสื่อญี่ปุ่น ได้ฟีลย้อนยุคไปในสมัยเอโดะ นอกเหนือจากบ่อออนเซนแล้ว ยังมีบ่อน้ำพุร้อนที่เอาไว้สำหรับแช่เท้า เป็นหนึ่งในออนเซนที่ไปเยือนได้ตลอดทั้งปี
Google Maps
จองตั๋วเครื่องบินไปญี่ปุ่น กับTraveloka > https://www.traveloka.com/th-th/flight-to-japan
2. หยางหมิงซาน (Yangmingshan)
รองจากญี่ปุ่นแหล่งแช่ออนเซนใกล้ไทยมากที่สุดอีกหนึ่งแห่ง ก็ต้องยกให้กับไต้หวันเลย เพราะว่าไต้หวันนั้นขึ้นชื่อเรื่องน้ำพุร้อน ที่เที่ยวแบบธรรมชาติ และเรื่องของน้ำแร่ที่ไหลมาจากแหล่งใต้ดินธรรมชาติ ช่วยรักษาโรค และทำให้ผิวพรรณเปล่งปลั่ง ซึ่งหลักๆ แล้วคนส่วนใหญ่มักจะเดินทางไปยังเป่ยโถว เพราะโด่งดังมากในเรื่องของน้ำพุร้อน แต่ทว่าหากใครมีเวลามากกว่านั้น ก็อยากจะให้ลองไปเที่ยวที่หยางหมิงซาน เพราะจะมีรีสอร์ท หรือว่าโรงแรมหรูที่มีออนเซนฟินๆ ให้ได้ลองแช่กัน ท่ามกลางอากาศเย็นๆ คือฟิน ถ้าพร้อมแล้วเตรียมตัวกดตั๋วเครื่องบินไปไต้หวันกันได้เลย
Google Maps
จองตั๋วเครื่องบินไปไต้หวัน กับTraveloka > https://www.traveloka.com/th-th/flight-to-taiwan
3. บลู ลากูน (Blue Lagoon)
เชื่อว่าหลายคนนั้นได้ลิสต์ที่เที่ยวแห่งนี้ไว้เป็นจุดหมายปลายทางในฝันแล้วเรียบร้อย กับบลู ลากูน แลนด์มาร์คชื่อดังของไอซ์แลนด์ ใครที่จองตั๋วเครื่องบินไปไอซ์แลนด์ต่างก็ต้องเดินทางไปเช็คอินที่นี่กันทั้งนั้น เหตุผลอย่างแรกก็คือเป็นบ่อน้ำพุ หรือสปาที่มีชื่อเสียง และเปิดให้นักท่องเที่ยวเดินทางไปเที่ยวกันตลอดทั้งปี ไม่ว่าจะฤดูไหนก็ตามแต่ จุดเด่นอีกอย่างของบลู ลากูน คือเป็นสปาที่เชื่อว่าน้ำแร่นั้นจะช่วยรักษาผิวพรรณ และช่วยบำรุงได้เป็นอย่างดี เพราะน้ำในบ่อบลู ลากูนจะอุดมไปด้วยแร่ธาตุมากมาย ที่ถึงแม้ว่าบ่อน้ำแร่ขนาดใหญ่นี้ จะไม่ได้เกิดขึ้นเองตามธรรมชาติ แต่ก็เป็นบ่อน้ำแร่ชื่อดังระดับโลก ที่ไม่ว่าใครจองตั๋วเครื่องบินไปไอซ์แลนด์ ต่างก็ต้องไปเช็คอิน
Google Maps
จองตั๋วเครื่องบินไปไอซ์แลนด์ กับTraveloka > https://www.traveloka.com/th-th/flight-to-iceland
4. รูดาสบาธ (Rudas Bath)
บ่อน้ำพุร้อนที่เก่าแก่แห่งนี้ได้ตั้งอยู่ที่เมืองบูดาเปสต์ ประเทศฮังการี เป็นหนึ่งในบ่อน้ำพุร้อนที่เก่าแก่ และสำคัญระดับโลก แขกไปใครมาเดินทางไปยังบูดาเปสต์ แนะนำให้ลองแวะแช่ตัวกันสักหน่อย เพราะเป็นบ่อน้ำพุร้อนที่มาแช่ตัวกันได้ตลอดเวลา เนื่องจากเป็นบ่อน้ำพุร้อนในร่ม ทำเลที่ตั้งอยู่บนเขาเกลเลิร์ตฮิลล์ (Gellert Hill) ที่ฝั่งเมืองบูดา ด้วยความเก่าแก่หลายคนอาจจะคิดไม่ถึงว่า ที่รูดาสบาธนี้ ด้วยความพิเศษของสถานที่แห่งนี้ ที่ทำให้ชาวเมืองฮังกาเรียนส่วนใหญ่นิยมมาใช้บริการ ก็คือจะมีบ่อให้เลือกหลายแบบ มีทั้งบ่อที่เป็นเหมือนสระว่ายน้ำ น้ำพุร้อนที่ใช้ในการบำบัด รวมไปถึงบ่อน้ำพุร้อนบนรูฟท็อป อันโด่งดัง เพราะในขณะที่ได้แช่น้ำร้อนไปพลาง ก็จะได้ชมวิวไปพลางด้วย
Google Maps
จองตั๋วเครื่องบินไปบูดาเปสต์ กับTraveloka > https://www.traveloka.com/th-th/flight/to/Budapest.BUD
5. ปามุกคาเล (Pamukkale)
หนึ่งในที่เที่ยวอันสวยงามของประเทศตุรกี ที่ถ้าหากใครมีโอกาสได้ไปเยี่ยมเยือน แนะนำให้เตรียมชุดลงไปแช่ตัวในบ่อ เพราะที่ปามุกคาเล เราจะเห็นแอ่งหินปูนสีขาวที่ซ้อนกันเป็นชั้นๆ และมีน้ำแร่สีฟ้าใสสะอาด ที่นอกเหนือจากจะถ่ายรูปสวยแล้ว ยังแช่ตัวเพื่อบำรุงผิวพรรณได้ด้วย เพราะน้ำสีฟ้าที่เห็นมาจากน้ำที่ไหลจากธารน้ำใต้ดิน มีอุณหภูมิประมาณ 35 องศาเซสเซียส ไม่ถึงกับร้อนมากแต่ก็อุ่นอยู่พอประมาณ โดยปามุกคาเล ในภาษาตุรกี แปลว่าปราสาทปุยฝ้าย เพราะว่าดูรูปทรงเหมือนกับปราสาทสีขาว ที่ลดหลั่นกันลงมาเป็นชั้น เกิดขึ้นโดยธรรมชาติ จากน้ำตกหินปูนที่ไหลมาจากภูเขาคาลดากี จนได้รับการยกย่องให้เป็นมรดกโลกจากองค์การยูเนสโก
Google Maps
จองตั๋วเครื่องบินไปตุรกี กับTraveloka > https://www.traveloka.com/th-th/flight-to-turkey
6. บ่อน้ำพุร้อนซาร์ตูร์เนีย (Terme di Saturnia)
หากเอ่ยถึงบ่อน้ำพุร้อนชื่อดังของประเทศอิตาลี ก็ต้องนึกถึง “Terme di Saturnia” หรือที่มีชื่อเรียกเป็นภาษาอิตาลีก็คือ Castate del Molino เป็นบ่อน้ำพุร้อนตามธรรมชาติ ชื่อดังของแคว้นทัสคานี (Tuscany) ใครมีโอกาสได้ซื้อตั๋วเครื่องบินไปทัสคานี ก็ต้องไปเยือนหน่อยแล้ว เพราะบ่อน้ำพุร้อนนี้ขึ้นชื่อเรื่องความสวยงามยิ่งนัก หลายคนถึงกับขนานนามว่าเป็นบ่อน้ำพุจากสรวงสวรรค์ จุดเด่นคือน้ำพุร้อนที่มีสีฟ้างดงาม เกิดจากปล่องภูเขาไฟด้านใต้ดิน ที่จะมีอุณหภูมิน้ำอยู่ที่ประมาณ 37 องศาเซสเซียสด้วยกัน โดยน้ำที่ผุดขึ้นมาจะมีการไหลแบบธรรมชาติ ก่อนจะเกิดมาเป็นทรงน้ำตกอย่างบ่อน้ำพุร้อนซาร์ตูร์เนียที่เห็นอยู่นี่ หากใครอยากจะมาแช่น้ำผ่อนคลาย ถ่ายรูปสวยๆ แนะนำให้มาในช่วงเช้า เพราะปกตินักท่องเที่ยวจะเยอะมาก
Google Maps
จองตั๋วเครื่องบินไปอิตาลี กับTraveloka > https://www.traveloka.com/th-th/flight-to-italy
7. บ่อน้ำพุร้อนล็อยเคอร์บาท (Leukerbad switzerland)
ถือว่าเป็นจุดแช่ออนเซน หรือว่าน้ำพุร้อนที่โด่งดัง และมีชื่อเสียงระดับโลก ขนาดที่ว่าบางคนเดินทางมาจอง และเข้าพักโรงแรมสุดหรูแถวล็อยเคอร์บาท เพราะต้องการมาแช่น้ำแร่กันเลยทีเดียว อันที่จริงแล้วโรงแรมในละแวกนี้จะมีให้เลือกเข้าพักหลายที่ด้วยกัน แต่บางแห่งจะมีให้เลือกระหว่างสปากลางแจ้ง และสปาในร่ม ที่มีบ่อน้ำพุร้อน พร้อมกับสปาให้เลือกใช้บริการแบบครบวงจร เนื่องจากน้ำแร่ที่ได้จะเป็นน้ำแร่ธรรมชาติ 100% อุดมไปด้วยแร่ธาตุต่างๆ มีความเชื่อว่าช่วยรักษา หรือบรรเทาอาการที่เกี่ยวกับการปวดเมื่อย ไขข้อ หรือรักษาผิวพรรณได้ด้วย ถึงแม้ว่าคุณจะไม่ได้เข้าพักในโรงแรมที่มีบ่อน้ำพุร้อนส่วนตัวก็ไม่เป็นไร เพราะที่นี่จะมีบ่อน้ำพุร้อนกลางแจ้งคอยให้บริการแก่นักท่องเที่ยว และชาวเมืองทั่วไป
Google Maps
จองตั๋วเครื่องบินไปสวิตเซอร์แลนด์ กับTraveloka > https://www.traveloka.com/th-th/flight-to-switzerland
8. จิโกกุ เมกุริ (Jigoku Meguri)
มาถึงบ่อน้ำพุร้อนชื่อดังของประเทศญี่ปุ่น ที่ชื่อเสียงเรียงนามโด่งดังจากบ่อน้ำพุสีเลือด หรือว่า “Blood Pond Hell” กันดีกว่า เพราะว่าบ่อน้ำพุนี้ตั้งอยู่ภายในเมืองเบปปุ แม้ว่าบ่อน้ำพุร้อนหลากสี ที่มีตั้งแต่สีฟ้าแบบน้ำทะเล สีแดงเหมือนเลือด สีขาวของโคลน และน้ำพุร้อนสีต่างๆ มากมายถึง 8 บ่อที่เรียงรายอยู่บริเวณนี้ แต่ดูเหมือนจะไม่มีสักบ่อที่สามารถลงไปแช่ตัวได้เลย เพราะเนื่องจากอุณหภูมิที่สูงของบางบ่อที่สูงถึง 99 องศาเซสเซียสก็ตามที แต่ทว่าใครเดินเที่ยวกันจนเมื่อย หรืออยากจะผ่อนคลายเท้ากันบ้าง ที่เมืองเบปปุนี้ก็จะมีบ่อน้ำพุร้อนสำหรับแช่เท้าไว้ให้บริการกัน ข้อดีก็คือแช่ง่าย ไม่มีค่าใช้จ่าย นักท่องเที่ยวที่อยากจะเดินทางไปเที่ยวชมบ่อน้ำพุร้อน แนะนำให้ไปที่เมืองเบปปุเลย
Google Maps
จองตั๋วเครื่องบินไปญี่ปุ่น กับTraveloka > https://www.traveloka.com/th-th/flight-to-japan
9. มาอิน ฮอตสปริง รีสอร์ต (Ma’In Hot Springs Resort)
ชื่ออาจจะฟังดูไม่คุ้น แต่แนะนำว่าหากใครได้จองตั๋วเครื่องบินไปจอร์แดน ก็อยากจะให้ไปร้องแช่น้ำบ่อน้ำพุร้อนกลางแจ้งกันที่ “Ma’In Hot Springs Resort” ซึ่งก็แล้วแต่ใครจะสะดวก เพราะว่าที่บ่อน้ำพุร้อนนี้จะตั้งอยู่กลางแจ้ง ดูเผินอาจจะเหมือนกับสระว่ายน้ำทั่วไป แต่ไร้คลอรีน และมาจากน้ำพุธรรมชาติ นอกจากนั้นยังมีบ่อน้ำพุร้อนแนวออนเซนให้ลงแช่ผ่อนคลายกล้ามเนื้อกันด้วย ความดีงามคือหากใครที่ไม่ได้เข้าพัก แต่อยากมาแช่น้ำพุร้อนก็จ่ายเงินเข้ามาได้ อีกทั้งถ้าใครไม่สะดวกโรงแรมนี้ ก็มีอีกหลายแห่งที่เปิดให้ลงไปแช่น้ำพุร้อนกันแบบฟินๆ
Google Maps
จองตั๋วเครื่องบินไปจอร์แดน กับTraveloka > https://www.traveloka.com/th-th/flight-to-jordan
10. สปาคอมเพลกซ์ Caldea (Centre Termoludic Caldea)
หลายคนอาจจะงง แต่ถ้าบอกว่าสถานที่นี้ก็คือสปาคอมเพล็กซ์แสนเก๋ที่ตั้งอยู่ภายในประเทศอันดอร์ร่าก็อาจจะร้องอ๋อ แต่ถ้าหากใครที่ก็ยังไม่รู้จักประเทศอันดอร์ราอีก ขอบอกเลยว่าประเทศนี้ถือว่าเป็นประเทศที่เล็กมากที่สุดในโซนทวีปยุโรป อยู่ท่ามกลางประเทศสเปน และฝรั่งเศส หากใครที่ชื่นชอบการแช่น้ำพุร้อน หรืออยากบำรุงผิวด้วยน้ำแร่จากธรรมชาติแล้วนั้น ขอเชิญให้ไปเที่ยวที่สปาแห่งนี้ เพราะมีความหรูหรา ทันสมัยด้วยสถาปัตยกรรมแบบล้ำสมัย สูงมากถึง 18 ชั้น และมีสระว่ายน้ำในร่มที่ดูเหมือนจะเป็นสระว่ายน้ำทั่วไป แต่ทว่าด้านในสระจะเต็มไปด้วยน้ำแร่จากธรรมชาติ มีทั้งส่วนที่เป็นในร่ม และกลางแจ้ง นอกจากจะเป็นสระว่ายน้ำที่เยี่ยมยอดแล้ว ยังเป็นแลนด์มาร์คชื่อดังของอันดอร์ร่าด้วยนะ
Google Maps
จองตั๋วเครื่องบินไปสเปน กับTraveloka > https://www.traveloka.com/th-th/flight-to-spain
11. โรงอาบน้ำเกลเลิร์ตสปา (Gellért Thermal Bath Spa)
หากใครมีโอกาสได้ไปเยือนฮังการี หรือเมืองหลวงอย่างบูดาเปสต์ จะทราบโดยทันทีว่าโรงอาบน้ำ หรือว่าสปาห้องอาบน้ำนั้นได้รับความนิยมมาตั้งแต่ไหนแต่ไร ซึ่งห้องอาบน้ำนี้ก็เป็นสปาที่โด่งดัง และเก่าแก่ มีอายุมากกว่า 100 ปีมาแล้วด้วยกัน อีกทั้งยังเป็นจุดเช็คอินที่ไม่ว่าใครก็ตามได้แวะเวียนมาเที่ยวบูดาเปสต์ต่างก็ต้องแวะมากันทั้งนั้น เพราะจุดเด่นของโรงอาบน้ำนี้คือคุณจะได้แช่น้ำพุร้อนที่แสนจะสบายตัว ด้วยไฮไลท์คือสระในร่มที่มีขนาดใหญ่ และบ่อน้ำพุร้อน ที่นำน้ำมาจากบ่อน้ำแร่จากเนินเขา Gellért ด้วยแร่ธาตุที่มีด้านใน เชื่อว่าจะช่วยแก้โรคป่วยเมื่อย หรือช่วยกระตุ้นการไหลเวียนของโลหิตได้เป็นอย่างดี
Google Maps
จองตั๋วเครื่องบินไปบูดาเปสต์ กับTraveloka > https://www.traveloka.com/th-th/flight/to/Budapest.BUD
12. ฮาร์ฟเวย์ ริเวอร์ ฮอทสปริง (Halfway River Hot Springs)
หนึ่งในบ่อน้ำพุร้อนธรรมชาติที่สวยที่สุดแห่งหนึ่งของแคนาดา ก็คือบ่อน้ำพุร้อนแห่งนี้ “ฮาร์ฟเวย์ ริเวอร์ ฮอทสปริง” หากใครได้มาเยือนบริชติชโคลัมเบีย แนะนำเลยว่าลิสต์บ่อน้ำพุร้อนแห่งนี้เอาไว้ด่วน เพราะเป็นบ่อที่อยู่ท่ามกลางธรรมชาติ อุณหภูมิของน้ำแร่ภายในบ่อจะอยู่ที่ประมาณ 42 องศาเซสเซียส จุดเด่นของบ่อน้ำพุนี้คือจะอยู่ท่ามกลางป่าสน ให้คุณได้บรรยากาศเหมือนไปแคมป์ปิ้ง แต่ไม่ใช่แค่เพียงบรรยากาศอย่างเดียวเท่านั้น ทว่ายังสามารถไปนอนค้างคืนแคมป์ปิ้งได้จริงๆ อีกด้วย นับว่าเป็นบ่อน้ำพุร้อนที่น่าสนใจไม่น้อย
Google Maps
จองตั๋วเครื่องบินไปแคนาดา กับTraveloka > https://www.traveloka.com/th-th/flight-to-canada
13. บ่อน้ำพุร้อนเมืองวิชี (Vichy thermal spa water springs)
ถ้าไม่พูดถึงเมืองบ่อน้ำพุร้อนที่โด่งดังไปทั่วทั้งโลกของประเทศฝรั่งเศสก็คงไม่ได้ เพราะเมืองนี้โด่งดังในเรื่องน้ำพุร้อนมาก จนเกิดมาเป็นยี่ห้อเวชสำอางชื่อดังอย่าง “Vichy” หรือว่า วิชี โดยภายในเมืองจะมีโรงแรมสุดหรูให้เลือกพักมากมายเต็มไปหมด แต่ถ้าหากใครอยากลองชิมน้ำพุร้อนแบบดั้งเดิมของเมืองนี้ แนะนำให้ไปที่บ่อน้ำพุร้อนของเมือง อันเป็นบ่อน้ำพุร้อนสาธารณะส่วนกลาง ที่ไม่เก็บค่าเข้า ใครๆ ก็ไปได้แถมยังฟรีอีกด้วย! หากชิมจนหนำใจแล้ว ก็อย่าลืมหาสปาดีๆ หรือว่าโรงแรมในเมืองวิชีที่มีสปาน้ำพุร้อนให้บริการ เพราะจะมีสปาให้เลือกหลายแบบ มีทั้งน้ำบำบัด พอกโคลน หรือนวดเพื่อผ่อนคลายก็มีครบ
Google Maps
จองตั๋วเครื่องบินไปฝรั่งเศส กับTraveloka > https://www.traveloka.com/th-th/flight-to-france
14. ฮัมมัมกรานาดา (Hammam Al Ándalus)
แม้ว่าจะเป็นฮัมมัมแบบอาระเบียน แต่ทว่าฮัมมัมชื่อดังนี้ได้ตั้งอยู่ในประเทศสเปน โดดเด่น และหรูหราด้วยสถาปัตยกรรมแบบอาระเบียนอันโด่งดัง เป็นสถานที่อาบน้ำ หรือโรงอาบน้ำแบบตุรกีขนานแท้ ซึ่งฮัมมัมนี้เป็นฮัมมัมที่เก่าแก่มาก เปิดมาตั้งแต่เมื่อปี 1998 จุดเด่นของฮัมมัมกรานาดาจะถูกแบ่งออกเป็นหลายห้องด้วยกัน มีตั้งแต่ห้องที่อุณหภูมิร้อน ห้องที่กำลังอุ่น ไปจนถึงห้องเย็น ที่อาศัยอุณหภูมิที่แตกต่างกันช่วยทำให้คุณรู้สึกผ่อนคลายอย่างเป็นที่สุด หากคุณได้มีโอกาสที่ได้ไปเยือนเมืองกรานาดา ประเทศสเปน ก็อย่าลืมแวะไปสปาที่ฮัมมัมกันสักที
Google Maps
จองตั๋วเครื่องบินไปสเปน กับTraveloka > https://www.traveloka.com/th-th/flight-to-spain
15. บ่อน้ำพุร้อนชีน่า (Chena Hot Springs)
ไม่มีอะไรจะดีไปกว่าการได้แช่บ่อน้ำพุร้อน ไปพร้อมกับการชมแสงเหนืออีกต่อไปแล้ว หากใครที่อยากจะลองแช่น้ำพุร้อน ท่ามกลางความหนาวอุณหภูมิแบบติดลบ ที่นอกจากจะฟินสุดๆ ไปแล้ว ยังได้มีโอกาสชมแสงเหนือด้วยวิวสุดอลังการอีกด้วย ที่บ่อน้ำพุร้อนแห่งนี้ ที่ตั้งอยู่ภายในอลาสก้า โดดเด่นด้วยการเป็นรีสอร์ทน้ำพุร้อนที่ทั้งเก่าแก่ และมีชื่อเสียง เพราะขึ้นชื่อว่าเป็นโรงแรมในอันดับต้นๆ ที่เหมาะกับการไปดูแสงเหนือที่ดีมากที่สุด ไม่ใช่แค่วิวแสงเหนือเท่านั้นที่ฟิน แต่ทว่านักท่องเที่ยวจะได้เพลิดเพลินไปกับวิวป่าสน และทุ่งน้ำแข็งของเมืองอลาสก้าด้วยนะ
16. เอล เทติโอ (El Tatio)
มาถึงบ่อน้ำพุร้อนในแถบอเมริกาใต้กันบ้าง กับ “เอล เทติโอ (El Tatio)” ว่ากันว่าเป็นน้ำพุร้อนที่อยู่สูงมากที่สุดในโลก ตั้งอยู่บนเทือกเขาแอนดีส เพราะว่ามีกระแสน้ำที่พุ่งออกมาจากใต้พื้นโลก หรือที่เรียกกันว่า ไกเซอร์ (Geyser) ที่มีมากมายกว่า 80 บ่อด้วยกัน ทำให้บริเวณเอล เทติโอนี้ได้กลายเป็นพื้นที่มีบ่อน้ำพุร้อนมากที่สุดในโลก บริเวณนั้นนอกจากจะมีบ่อที่ยังคงมีความอันตราย เพราะน้ำพุร้อนนั้นระอุมาจากใต้พื้นโลก ทำให้รัฐบาลชิลีต้องออกเตือนนักท่องเที่ยวที่มาเยือนเอล เทติโอ ให้เที่ยวด้วยความระมัดระวัง บริเวณเดียวกันนั้นก็ยังมีน้ำพุร้อนบางบ่อที่สามารถลงไปแช่ตัวได้ หรือส่วนมากก็มักจะมีคนเอาไข่ต้มไปลองต้มดู
Google Maps
จองตั๋วเครื่องบินไปชิลี กับTraveloka > https://www.traveloka.com/th-th/flight-to-chile
17. คอมเพล็กซ์ อควา โดม (Aqua Dome)
เมื่อจองตั๋วเครื่องบินไปออสเตรียแล้วนั้น เกิดรู้สึกอยากแช่น้ำพุร้อน หรือว่าผ่อนคลายร่างกายขึ้นมา แนะนำว่าให้มุ่งหน้าไปที่ “คอมเพล็กซ์ อควา โดม (Aqua Dome)” กันได้เลย เพราะน่าสนใจตั้งแต่เป็นคอมเพล็กซ์แบบครบวงจร ให้คุณได้ผ่อนคลายร่างกายกันแบบสบายๆ ความโดดเด่นที่หนึ่งคือวิวทิวทัศนที่สวยงดงามเป็นอย่างมาก ด้วยวิวพาโนราม่าที่รอบล้อมไปด้วยหุบเขา จะทำให้คุณรู้สึกอิ่มใจตลอดเวลาที่แช่น้ำพุร้อนของที่นี่ จุดเด่นอีกอย่างก็คือบ่อน้ำพุร้อน หรือว่าบ่อแช่น้ำที่ตั้งอยู่กลางแจ้ง ให้คุณได้แช่น้ำไป ชมวิวไปเพลินๆ อีกอย่างคือแม้จะอยู่ในช่วงฤดูหนาว แต่คุณจะไม่รู้สึกหนาวเลย นอกจากการแช่น้ำแล้วนั้น ยังมีกิจกรรมอื่นอีกมากมาย รวมถึงกิจกรรมบำบัด ถือว่าเป็นหนึ่งในสปาสุดหรูที่มีบ่อน้ำแร่ และกิจกรรมผ่อนคลายมากมายอื่นๆ
Google Maps
จองตั๋วเครื่องบินไปออสเตรีย กับTraveloka > https://www.traveloka.com/th-th/flight-to-austria
18. บ่อน้ำพุร้อนคาร์โรวี วารี (Karlovy Vary)
ถือว่าเป็นสปาที่ไม่ใช่แค่มีดีตรงที่มีบ่อน้ำพุร้อนเก่าแก่ตั้งอยู่ภายในเมือง แต่ยังเป็นเมืองสปาน้ำพุร้อนที่สวยติดอันดับต้นๆ ของโลกอีกด้วย จุดเด่นของเมืองนี้อันดับแรกเลยก็คือความงดงามของเมือง ที่มีการทาสีบ้านเป็นโทนสีแบบพาสเทลหวานๆ ให้ความสวยงาม และน่ารักเหมือนหลุดออกมาจากโลกเทพนิยาย ตั้งอยู่ในประเทศเช็ก เป็นหนึ่งในฉากของหนังหลายเรื่อง และตั้งอยู่ริมแม่น้ำเทปลา (Tepla) จุดเด่นที่สองก็คือสถานที่เที่ยวภายในเมืองนี้ จะเน้นไปที่น้ำพุร้อน มีทั้งแบบที่เป็นสปาให้บริการ บ่อน้ำพุร้อนดั้งเดิมเก่าแก่ และน้ำพุรสชาติเยี่ยมตั้งหลาย รอบหน้าถ้าได้ไปเช็กแล้ว อย่าลืมแวะไปเที่ยวกัน
19. บาร์ตันสปริงพูล (Barton Springs Pool)
แม้ว่าภายในประเทศสหรัฐอเมริกาจะมีบ่อน้ำพุร้อนมากมาย แต่หนึ่งในบ่อน้ำพุร้อนเป็นที่น่าสนใจ และเป็นบ่อน้ำพุร้อนแบบธรรมชาติ ก็ต้องยกให้กับบาร์ตันสปริงพูล อันเป็นบ่อน้ำที่ตั้งอยู่ภายในออสติน รัฐเท็กซัส ที่ดึงดูดนักท่องเที่ยวมากมายให้เดินทางมาที่นี่ เพราะว่าเป็นบ่อน้ำพุขนาดใหญ่ รายล้อมไปด้วยธรรมชาติที่งดงาม และร่มรื่น ด้วยอุณหภูมิน้ำแร่ที่คงอยู่ที่ประมาณ 68 องศาฟาเรนไฮต์ตลอดทั้งปี จึงทำให้บาร์ตันสปริงพูลนั้นฮอตฮิตไม่เบา แต่สำหรับบ่อน้ำพุนี้จะมีค่าใช้จ่าย สำหรับผู้ใหญ่ที่ประมาณ 3 เหรียญ และเด็กคนละ 1 เหรียญดอลล่าร์สหรัฐฯ
Google Maps
จองตั๋วเครื่องบินไปสหรัฐอเมริกา กับTraveloka > https://www.traveloka.com/th-th/flight-to-united-states-of-america
20. บ่อน้ำพุร้อนมารูว (Maruia Hot Springs)
ปิดท้ายกันด้วยบ่อน้ำพุร้อนแห่งสุดท้าย อันเป็นบ่อน้ำพุร้อนที่ตั้งอยู่ภายในรีสอร์ทชื่อดังของประเทศนิวซีแลนด์ มีความโดดเด่นตรงที่เป็นบ่อน้ำพุร้อนที่ขึ้นชื่อเรื่องความสวยงาม รายล้อมไปด้วยธรรมชาติ และภูเขา ให้คุณได้พักผ่อนเอนกาย จุ่มตัวลงในบ่อน้ำพุร้อนแสนสบาย หลบหนีจากความวุ่นวาย และเหมาะกับคนที่ชอบเที่ยวแนวธรรมชาติ เพราะว่าบ่อน้ำพุร้อนมารูวได้ตั้งอยู่ภายในอุทยานแห่งชาติที่ตั้งอยู่บนเกาะใต้ของนิวซีแลนด์นั่นเอง
Google Maps
จองตั๋วเครื่องบินไปนิวซีแลนด์ กับTraveloka > https://www.traveloka.com/th-th/flight-to-new-zealand
ทั้งนี้ถ้าหากใครอดใจไม่ไหว อยากจะไปเยือนบ่อน้ำพุร้อนที่เมืองนอกกันแล้ว ให้ลองเปิดใจเที่ยวในไทยดูก่อน เพราะในไทยเองก็มีบ่อน้ำพุร้อนหลายแห่ง บรรยากาศดี๊ดี ไม่แพ้บินไปเที่ยวที่เมืองนอกเลยแหละ