แจกพิกัด ที่เที่ยวหน้าหนาว 2565-2566 จากทั่วประเทศไทย มีครบทั้งภูเขา ทะเล และดอกไม้สวยๆ
ก้าวเข้าสู่หน้าหนาวกันแล้ว ในช่วงนี้ถือเป็นฤดูกาลแห่งการท่องเที่ยว ที่หลายคนวางแผนจะไปเที่ยวพักผ่อนหลังจากทำงานหนักมาตลอดทั้งปี สำหรับใครที่จะออกไปสัมผัสกับลมหนาว วันนี้ GangTravel เราได้รวบรวม ที่เที่ยวหน้าหนาว ทั่วเมืองไทย มาให้ทุกคนได้ตามไปเที่ยวเช็กอินกัน มีทั้งขึ้นดอย ชมดอกไม้เมืองหนาว รวมถึงที่เที่ยวทะเลหน้าหนาว ก็มีมาให้ครบ แต่ละที่วิวสวย และบรรยากาศฟินสุดๆ จะมีที่ไหนน่าสนใจบ้าง ตามมาดูเลย
ที่เที่ยวหน้าหนาวภาคเหนือ
1. เส้นทางชมดอกนางพญาเสือโคร่ง
ไฮไลต์ช่วงหน้าหนาว ที่ได้รับความนิยมเป็นอย่างมาก นั่นก็คือ เส้นทางชมดอกนางพญาเสือโคร่ง ซึ่งจะพบมากในภาคเหนือ เราก็เลยรวบรวมมาแนะนำกัน
1.1 ศูนย์อนุรักษ์พันธุ์กล้วยไม้รองเท้านารีอินทนนท์
ตั้งอยู่ภายในอุทยานแห่งชาติดอยอินทนนท์ ที่นี่เป็นสถานที่เพาะพันธุ์และวิจัยเกี่ยวกับพันธุ์กล้วยไม้รองเท้านารี เต็มไปด้วยป่าเขาและอ่างเก็บน้ำที่เงียบสงบ รวมทั้งมีต้นนางพญาเสือโคร่งปลูกอยู่รอบอ่างเก็บน้ำและโดยรอบ
ที่อยู่ : อุทยานแห่งชาติดอยอินทนนท์ หมู่7 ต.บ้านหลวง อ.จอมทอง จ.เชียงใหม่ 50160
เวลาเปิด – ปิด : ทุกวัน 08.00 – 16.00 น.
เบอร์โทร : 053 286 729
เว็บไซต์ : –
เฟซบุ๊ก : facebook.com/โครงการอนุรักษ์พันธุ์กล้วยไม้รองเท้านารีอินทนนท์
1.2 สถานีวิจัยและศูนย์ฝึกอบรมเกษตรที่สูงขุนช่างเคี่ยน
ที่นี่ปลูกต้นนางพญาเสือโคร่งไว้มากมาย จึงทำให้ในช่วงหน้าหนาวจะกลายเป็นสถานที่ยอดนิยมของนักท่องเที่ยวในการมาท้าลมหนาว และชมดอยหลวงเชียงดาว ไปพร้อม ๆ กัน
ที่อยู่ : หมู่บ้านขุนช่างเคี่ยน ตำบลช้างเผือก อำเภอเมือง จังหวัดเชียงใหม่
เวลาเปิด – ปิด : ทุกวัน 06.00- 18.00 น.
เบอร์โทร : –
เว็บไซต์ : –
เฟซบุ๊ก : –
1.3 ศูนย์วิจัยเกษตรหลวงเชียงใหม่ (ขุนวาง)
ในช่วงเดือนมกราคม ของทุกปี จะเป็นช่วงที่ดอกนางพญาเสือโคร่งเบ่งบาน โดยจุดไฮไลต์คือบริเวณริมถนนในศูนย์วิจัย ซึ่งจะมีต้นนางพญาเสือโคร่งปลูกเรียงรายเป็นทางยาว กลายเป็นอุโมงค์ดอกนางพญาเสือโคร่งสีชมพูสวยสะพรั่ง
ที่อยู่ : ตำบล แม่วิน อำเภอ แม่วาง เชียงใหม่
เวลาเปิด – ปิด : ทุกวัน 08.00 – 16.30 น.
เบอร์โทร : 053 318 333
เว็บไซต์ : –
เฟซบุ๊ก : facebook.com/ศูนย์วิจัยเกษตรหลวงเชียงใหม่(ขุนวาง)
1.4 ศูนย์วิจัยเกษตรหลวงเชียงใหม่ (แม่จอนหลวง)
ภายในสถานีมีพืชพรรณเมืองหนาวนานาชนิด ในช่วงเดือนมกราคมจะคึกคักมากเป็นพิเศษ เพราะดอกนางพญาเสือโคร่งจะเผยโฉมออกมาให้ได้เห็นทั่วทั้งหุบเขา
ที่อยู่ : ตำบล แม่นาจร อำเภอแม่แจ่ม เชียงใหม่ 50270
เวลาเปิด – ปิด : ทุกวัน 08.00 – 16.30 น.
เบอร์โทร : 084 374 9133
เว็บไซต์ : –
เฟซบุ๊ก : facebook.com/ศูนย์วิจัยเกษตรหลวงเชียงใหม่ – แม่จอนหลวง
1.5 ดอยอ่างขาง
ที่เที่ยวหน้าหนาวยอดฮิต ในจังหวัดเชียงใหม่ ในช่วงเดือนกลางเดือนธันวาคม-มกราคม ของทุกปี จะมีเทศกาลชมดอกนางพญาเสือโคร่ง ที่ออกดอกบานสะพรั่ง เป็นภาพที่สวยงามมาก
ที่อยู่ : ตำบลแม่งอน อำเภอฝาง จังหวัดเชียงใหม่
เวลาเปิด – ปิด : ทุกวัน
เบอร์โทร : 053 969 476-8 ต่อ 114
เว็บไซต์ : –
เฟซบุ๊ก : –
2. ทุ่งดอกบัวตอง
เมื่อสายลมหนาวมาเยือนนั่นเป็นสัญญาณบ่งบอกว่าดอกบัวตองกำลังจะผลิสีเหลืองบานสะพรั่งไปทั่วทั้งดอย เพราะดอกบัวตองจะบานในช่วงต้นฤดูหนาวของทุกปี เราก็ไม่พลาดรวบรวมมาแนะนำกัน
2.1 ทุ่งดอกบัวตองดอยแม่อูคอ จ. แม่ฮ่องสอน
ทุ่งดอกบัวตองดอยแม่อูคอ เป็นทุ่งบัวตองที่ใหญ่ที่สุดแห่งหนึ่งของเมืองไทย ในทุกฤดูหนาว ดอกบัวตองจะพากันผลิดอกชูช่อสีเหลืองรับแสงตะวัน บานสะพรั่งสวยงามอร่ามไปทั่วทั้งดอย อีกทั้งยังมีเส้นทางให้เดินชมดอกบัวตองอย่างใกล้ชิด พร้อมกับมุมถ่ายรูปสวย ๆ เพียบ
ที่อยู่ : ดอยแม่อูคอ ตำบลแม่อูคอ อำเภอขุนยวม จังหวัดแม่ฮ่องสอน
เวลาเปิด – ปิด : ทุกวัน
เบอร์โทร : 053 612 982
เว็บไซต์ : –
เฟซบุ๊ก : –
2.2 ทุ่งดอกบัวตองดอยหัวแม่คำ จ. เชียงราย
ทุ่งดอกบัวตองดอยหัวแม่คำ เป็นยอดดอยสูงราว ๆ 1,850 เมตร นักท่องเที่ยวจะได้ชมดอกบัวตองบานเหลืองสะพรั่งท่ามกลางอากาศหนาวเย็น พร้อมกับแสงทองอ่อน ๆ ของพระอาทิตย์ยามเช้า ท่ามกลางความเงียบสงบของหมู่บ้านดอยหัวแม่คำ
ที่อยู่ : ตำบล แม่สลองใน อำเภอ แม่ฟ้าหลวง เชียงราย
เวลาเปิด – ปิด : –
เบอร์โทร : –
เว็บไซต์ : –
เฟซบุ๊ก : –
2.3 ทุ่งดอกบัวตองดอยแม่เหาะ
ทุ่งดอกบัวตองดอยแม่เหาะ จ. แม่ฮ่องสอน ตั้งอยู่ริมทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 108 เป็นเส้นทางหลวงสายท่องเที่ยวเพื่อมุ่งสู่เมืองจังหวัดแม่ฮ่องสอน ในช่วงเดือนพฤศจิกายน-ธันวาคม เมื่อผ่านมาบริเวณนี้จะพบกับดอกบัวตองสีเหลืองสดที่บานสะพรั่งรายล้อมข้างทาง
ที่อยู่ : ตำบล แม่เหาะ อำเภอแม่สะเรียง แม่ฮ่องสอน
เวลาเปิด – ปิด : –
เบอร์โทร : –
เว็บไซต์ : –
เฟซบุ๊ก : –
3. หน่วยจัดการต้นน้ำแม่ตะมาน – สถานีวิจัยเกษตรที่สูงป่าเกี๊ยะ จังหวัดเชียงใหม่
หน่วยจัดการต้นน้ำแม่ตะมาน – สถานีวิจัยเกษตรที่สูงป่าเกี๊ยะ จุดชมวิวดอยหลวงเชียงดาวที่สวยงามมากที่สุดแห่งหนึ่งของเมืองเชียงดาว ในช่วงปลายฤดูหนาวที่นี่จะมีต้นนางพญาเสือโคร่งสีชมพูบานสะพรั่งทั่วทั้งดอย มียอดดอยหลวงเชียงดาว ตั้งตระหง่านท่ามกลางสายหมอกเตรียมรอรับแสงสีทองยามเช้า อากาศหนาวเย็น บรรยากาศเงียบสงบมาก ๆ มีลานกางเต็นท์และที่พักไว้รองรับ
ที่อยู่ : บ้านป่าเกี๊ยะ เมืองเชียงใหม่ จ.เชียงใหม่
เวลาเปิด – ปิด : ทุกวัน
เบอร์โทร :
เว็บไซต์ : –
เฟซบุ๊ก : facebook.com/สันป่าเกี๊ยะ ดอยแม่ตะมาน
4. อุทยานแห่งชาติแจ้ซ้อน จังหวัดลำปาง
อุทยานแห่งชาติแจ้ซ้อน ที่เที่ยวเชิงสุขภาพที่ได้รับความนิยม มีทั้งน้ำตกและบ่อน้ำร้อนอยู่ในบริเวณเดียวกัน ไฮไลต์ห้ามพลาดเมื่อลมหนาวมาเยือน คือ บ่อน้ำพุร้อนแจ้ซ้อน แหล่งน้ำพุร้อนที่มีสภาพการเกิดทางธรณีวิทยามีกลิ่นกำมะถันอ่อน ๆ จำนวน 9 บ่อ นักท่องเที่ยวนิยมนำไข่ไก่และไข่นกกระทามาแช่ นอกจากนี้ นักท่องเที่ยวยังสามารถขับรถชมดอกเสี้ยวบาน ได้ตามเส้นทางแจ้ซ้อน-บ้านป่าเหมี้ยง เป็นระยะทาง 18 กิโลเมตร อีกด้วย
ที่อยู่ : ตำบล แจ้ซ้อน อำเภอ เมืองปาน ลำปาง
เวลาเปิด – ปิด : ทุกวัน 8.00 – 17.00 น.
เบอร์โทร : 089 851 3355
เว็บไซต์ : –
เฟซบุ๊ก : facebook.com/อุทยานแห่งชาติแจ้ซ้อน – Chae Son National Park
5. ดอยช้าง จังหวัดเชียงราย
ดอยช้าง เป็นยอดดอยสูงในเทือกเขาดอยวาวี และเป็นที่ตั้งสถานีวิจัยเกษตรที่สูงและหมู่บ้านขาวเขา มีแปลงปลูกผลไม้เมืองหนาวให้เที่ยวชม อากาศเย็นสบายเกือบตลอดทั้งปี ที่นี่เป็นแหล่งปลูกกาแฟรสชาติอร่อยขึ้นชื่อของเมืองไทย อีกทั้งยังสามารถชมดอกนางพญาเสือโคร่ง (ซากุระเมืองไทย) อันสวยสดงดงามได้อีกด้วย
ที่อยู่ : ตำบลวาวี อำเภอแม่สรวย จังหวัดเชียงราย
เวลาเปิด – ปิด : ทุกวัน
เบอร์โทร : –
เว็บไซต์ : –
เฟซบุ๊ก : –
6. บ้านรักไทย จังหวัดแม่ฮ่องสอน
บ้านรักไทย หมู่บ้านบรรยากาศสุดอบอุ่น เป็นชุมชนชาวจีนยูนนาน ลูกหลานทหารกองพล 93 ที่เดินทางมากจากตอนใต้ของจีนเมื่อหลายสิบปี ก่อน ปัจจุบันอาศัยอยู่ร่วมกันกับพี่น้องชาวไทใหญ่และชาวไทยภูเขาเผ่าอื่น ๆ
บรรยากาศภายในจะมีอ่างน้ำขนาดใหญ่ใจกลางหมู่บ้าน และถูกรายล้อมไปด้วยบ้านดินชั้นเดียวมุงหลังคาด้วยใบตองสไตล์จีนที่ถูกดัดแปลงนำมาเป็นร้านค้าขายของที่ระลึก นอกจากนั้นยังได้ชมทิวทัศน์ของทิวเขาที่งดงาม ตลอดจนเพลินตาไปกับไร่ชาแบบขั้นบันได พร้อมพักชิมอาหารตำรับจีนยูนนานจานเด็ด จิบชารสเยี่ยม และของอร่อยอีกมากมาย
ที่อยู่ : บ้านรักไทย ม. 6 ต.หมอกจำ อ.เมือง จ.แม่ฮ่องสอน
เวลาเปิด – ปิด : ทุกวัน
เบอร์โทร : –
เว็บไซต์ : –
เฟซบุ๊ก : facebook.com/บ้านรักไทย ( แม่ฮ่องสอน )
7. อำเภอเชียงกลาง จังหวัดน่าน
อำเภอเชียงกลาง เมืองที่เล็กที่สุดของจังหวัดน่าน มีลักษณะภูมิประเทศที่โอบล้อมไปด้วยภูเขาสูงใหญ่ ชาวบ้านยังคงประกอบอาชีพเกษตรกรรม ทำให้มองเห็นท้องทุ่งนาและไร่ข้าวโพดแทรกอยู่ระหว่างภูเขาเกือบทุกลูก สร้างบรรยากาศผ่อนคลาย เงียบสงบ ชาวบ้านยังคงรักษาวัฒนธรรมประเพณีดั้งเดิมไว้ได้อย่างดีเยี่ยม
ที่อยู่ : ตำบลเชียงกลาง อำเภอเชียงกลาง จังหวัดน่าน
เวลาเปิด – ปิด : ทุกวัน
เบอร์โทร : –
เว็บไซต์ : –
เฟซบุ๊ก : –
8. อำเภอสะเมิง จังหวัดเชียงใหม่
อำเภอสะเมิง แหล่งปลูกสตอรว์เบอร์รีขนาดใหญ่อีกแห่งหนึ่งของเมืองไทย แต่ที่นี่ไม่ได้มีดีแค่สตรอว์เบอร์รีเท่านั้น เพราะยังมีสถานที่ท่องเที่ยวที่น่าสนใจ เช่น จุดชมทิวทัศน์ป่าสะเมิง , สถานีเกษตรหลวงปางดะ , ทุ่งดอกเก๊กฮวยบ้านอมลอง , ศูนย์วิจัยข้าวสะเมิง , น้ำพุร้อนโป่งกวาว เป็นต้น
ที่อยู่ : อำเภอสะเมิง จังหวัดเชียงใหม่
เวลาเปิด – ปิด : ทุกวัน
เบอร์โทร : –
เว็บไซต์ : –
เฟซบุ๊ก : facebook.com/อำเภอสะเมิง
9. ดอยอ่างขาง จังหวัดเชียงใหม่
ดอยอ่างขาง ที่เที่ยวหน้าหนาวยอดฮิต มีสถานที่ท่องเที่ยวที่น่าสนใจ เช่น สวนบอนไซ, เรือนไม้ดอกเมืองหนาว, โรงงานชา, แปลงบ๊วย, สวนไผ่, สวนดอกไม้ 80 ปี และแปลงปลูกสตรอว์เบอร์รี เป็นต้น อีกทั้งบริเวณโดยรอบยังมีชาวไทยภูเขาเผ่าต่าง ๆ อาศัยอยู่ ทำให้สามารถสัมผัสกับวิถีชีวิตที่แสนสงบเรียบง่ายได้ด้วย
ที่อยู่ : ตำบลแม่งอน อำเภอฝาง จังหวัดเชียงใหม่
เวลาเปิด – ปิด : ทุกวัน
เบอร์โทร : –
เว็บไซต์ : –
เฟซบุ๊ก : –
ที่เที่ยวหน้าหนาวภาคอีสาน
10. ภูลมโล จังหวัดเลย และจังหวัดพิษณุโลก
ภูลมโล ภูเขาที่ตั้งอยู่บนรอยต่อของสามจังหวัด คือ พิษณุโลก เพชรบูรณ์ และเลย ในช่วงรอยต่อของปีที่นี่เต็มไปด้วยกลีบสีชมพูสวยของดอกนางพญาเสือโคร่งไปทั่วบริเวณ ครอบคลุมเนื้อที่กว่า 1,200 ไร่ จนได้ขึ้นชื่อว่าเป็นแหล่งชมดอกนางพญาเสือโคร่งที่สวยงามมากที่สุดแห่งหนึ่งของไทย ต้นนางพญาเสือโคร่งจะออกดอกสีชมพูสวยในช่วงเดือนมกราคม ของทุกปี แต่จะช้าหรือเร็วกขึ้นอยู่กับสภาพอากาศเป็นสำคัญ
ที่อยู่ : ตำบลกกสะทอน อำเภอด่านซ้าย จังหวัดเลย
เวลาเปิด – ปิด : ทุกวัน
เบอร์โทร : 062 557 0912
เว็บไซต์ : –
เฟซบุ๊ก : facebook.com/ภูลมโล,ซากุระเมืองไทย,นางพญาเสือโคร่ง,กกสะทอน
11. ภูหมู จังหวัดมุกดาหาร
ภูหมู ตั้งอยู่ในเขตพื้นที่อุทยานแห่งชาติภูสระดอกบัว เป็นแหล่งท่องเที่ยวทางธรรมชาติที่สวยงามแห่งหนึ่งของอำเภอนิคมคำสร้อย โดยมีจุดชมทิวทัศน์สามารถมองเห็นทุ่งนา ไร่สวนของชาวบ้านไกลสุดลูกตา โดยในช่วงฤดูหนาวลมจะพัดแรงและหนาวมาก
ที่อยู่ : อุทยานแห่งชาติภูสระดอกบัว บ.หนองเม็ก ต.ป่าไร่ อ.ดอนตาล จ.มุกดาหาร
เวลาเปิด – ปิด : ทุกวัน
เบอร์โทร : 0 4262 0615
เว็บไซต์ : –
เฟซบุ๊ก : facebook.com/อุทยานแห่งชาติภูสระดอกบัว – Phu Sa Dok Bua National Park
12. พันโขดแสนไคร้ จังหวัดหนองคาย
พันโขดแสนไคร้ ที่เที่ยวสุดอันซีนที่หลายคนอาจไม่รู้จัก ว่ากันว่าที่นี่เป็น “แกรนด์แคนยอนกลางแม่น้ำโขง” มีไฮไลต์ คือ ก้อนหินหลากหลายสีสันและรูปทรง โดยเฉพาะหินสีดำนิลที่มีความมันวาวและสวยงามมาก ซึ่งอีกฟากคือวิวทิวทัศน์ของประเทศลาว ที่สามารถเพลิดเพลินกับวิวทิวทัศน์ที่ล้อมรอบด้วยขุนเขา สำหรับช่วงเวลาที่เหมาะสมในการชมความงามของพันโขดแสนไคร้ โดยจะเริ่มเห็นโขดหินตั้งแต่เดือนธันวาคมของทุกปี แต่ช่วงที่สวยงามที่สุด คือในช่วงเดือนเมษายน-พฤษภาคม
ที่อยู่ : ตำบล บ้านม่วง อำเภอ สังคม จังหวัด หนองคาย
เวลาเปิด – ปิด : ทุกวัน
เบอร์โทร : –
เว็บไซต์ : –
เฟซบุ๊ก : –
13. ภูฝอยลม จังหวัดอุดรธานี
ภูฝอยลม ที่นี่เป็นแหล่งท่องเที่ยวอุดรธานีที่ได้รับความนิยมในช่วงหน้าหนาวจากนักท่องเที่ยวค่อนข้างมาก โดยเฉพาะช่วงปลายปีจะมีการจัดงานดอกไม้ให้ได้ชมกันตลอด อีกทั้งยังมีหุ่นจำลองไดโนเสาร์ พิพิธภัณฑ์แสดงซากสัตว์ดึกดำบรรพ์ และมีเส้นทางเดินป่าศึกษาธรรมชาติ ให้นักท่องเที่ยวได้เที่ยวชมเพลิน ๆ อีกด้วย
ที่อยู่ : อุทยานล้านปีภูฝอยลม เขตป่าสงวนแห่งชาติพันดอน-ปะโค อำเภอหนองแสง จังหวัดอุดรธานี
เวลาเปิด – ปิด : ทุกวัน 08.30-16.30 น.
เบอร์โทร : 042 910 902
เว็บไซต์ : –
เฟซบุ๊ก : facebook.com/ภูฝอยลม
14. ภูสิงห์ จังหวัดบึงกาฬ
ภูสิงห์ ที่นี่มีสถานที่ท่องเที่ยวที่เป็นแรงดึงดูดให้ใคร ๆ ก็อยากไปเยือนสักครั้ง ก็คือ “หินสามวาฬ” หินทรายขนาดใหญ่ตั้งเรียงรายกัน 3 ก้อน รูปร่างคล้ายวาฬติดหน้าผาสูง แต่จริง ๆ แล้วที่แห่งนี้ยังมีสถานที่ท่องเที่ยวที่น่าสนใจอีกมากมาย เช่น จุดชมวิวถ้ำฤาษี , ลานธรรม , หินหัวช้าง , กำแพงภูสิงห์ เป็นต้น
ที่อยู่ : ตำบลโคกก่อง อำเภอเมือง จังหวัดบึงกาฬ
เวลาเปิด – ปิด : ทุกวัน 05.00 – 17.00 น.
เบอร์โทร : 063 883 9600
เว็บไซต์ : –
เฟซบุ๊ก : facebook.com/หินสามวาฬ “ภูสิงห์ บึงกาฬ”
15. บ้านท่าแร่ จังหวัดสกลนคร
บ้านท่าแร่ หมู่บ้านที่มีประชากรนับถือศาสนาคริสต์มากที่สุดในประเทศ และยังเป็นชุมชนเก่าแก่กว่า 100 ปี ตั้งอยู่ริมหนองหาร มีสถาปัตยกรรมร่วมสมัย นั่นก็คือ “อาสนวิหารอัครเทวดามีคาแอล” ที่ออกแบบโครงสร้างด้านหน้าเป็นรูปเรือสูงใหญ่โอ่อ่า เพื่อเป็นการระลึกถึงการอพยพมาตั้งถิ่นฐานของคริสตชนในหมู่บ้านนี้ ในช่วงวันคริสต์มาสของทุกปีจะมี “ประเพณีแห่ดาว” ที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทย โดยชาวบ้านจะตกแต่งโคมไฟรูปดาวไว้ที่หน้าบ้าน เป็นอีกหนึ่งงานเทศกาลที่เต็มไปด้วยความสุขแทบจะในทุกพื้นที่
ที่อยู่ : ริมหนองหาร บนทางหลวงหมายเลข 22 (สกลนคร-นครพนม) ตำบลท่าแร่ อำเภอเมือง จังหวัดสกลนคร
เวลาเปิด – ปิด : ทุกวัน
เบอร์โทร : –
เว็บไซต์ : –
เฟซบุ๊ก : facebook.com/บ้านท่าแร่จังหวัดสกลนคร
16. อุทยานแห่งชาติภูแลนคา จังหวัดชัยภูมิ
อุทยานแห่งชาติภูแลนคา ที่นี่มีสภาพป่าที่อุดมสมบูรณ์ ประกอบไปด้วยแหล่งที่อยู่อาศัยของสัตว์ป่าหลายชนิด ไฮไลต์ที่ไม่ควรพลาดคือ “มอหินขาว” กลุ่มเสาหินทรายสีขาวขนาดใหญ่ ตั้งตระหง่านบนลานหญ้ากว้าง , “จุดชมวิวผาหัวนาค” เป็นจุดชมวิวที่ตั้งอยู่บนที่สูงทำให้บริเวณนี้สภาพอากาศเย็นสบายตลอดทั้งปี และ “จุดชมวิวภูแลนคา” จุดชมวิวที่สวยงาม มีสถานที่กางเต็นท์เหมาะสำหรับผู้ที่ชอบสัมผัสธรรมชาติ เป็นต้น
ที่อยู่ : ตำบล ห้วยต้อน อำเภอหนองบัวแดง ชัยภูมิ
เวลาเปิด – ปิด : ทุกวัน 8.00 – 18.00 น.
เบอร์โทร : 093 093 9193
เว็บไซต์ : –
เฟซบุ๊ก : facebook.com/อุทยานแห่งชาติภูแลนคา
17. พิกัดชมทะลเหมอก 4 ภู ในจังหวัดเลย
เลย อีกหนึ่งจังหวัดที่มีสถานที่ท่องเที่ยวมากมาย โดยเฉพาะ “ภู” ต่าง ๆ ซึ่งที่รู้จักกันเป็นอย่างดี ไม่ว่าจะเป็นภูกระดึง ภูเรือ ภูป่าเปราะ หรือภูลมโล วันนี้เราได้รวบรวมข้อมูลมาให้แล้วค่ะ
17.1 ภูบักได อำเภอภูเรือ
ในฤดูหนาวอากาศที่นี่จะหนาวเย็นจัด ยามเช้าจะมองเห็นทะเลหมอกสีขาวงดงามอลังการ ไฮไลต์ห้ามพลาดคือบริเวณยอดภูจะมีหินยื่นออกมาจากหน้าผา เรียกกันว่า “ผาหลอกลวง” เป็นมุมถ่ายภาพสุดฮิตที่ไม่ควรพลาด
ที่อยู่ : ตำบลปลาบ่า อำเภอภูเรือ จังหวัดเลย
เวลาเปิด – ปิด : ทุกวัน 9.00 21.00 น.
เบอร์โทร : –
เว็บไซต์ : –
เฟซบุ๊ก : facebook.com/ภูบักได ใครๆก็เที่ยว
17.2 ภูลำดวน อำเภอปากชม
มีลักษณะเป็นยอดเขาสูงอยู่ริมแม่น้ำโขง สามารถมองเห็นวิวโดยรอบได้แบบพาโนรามา ในฤดูหนาวบริเวณนี้จะสามารถมองเห็นทะเลหมอกเหนือลำน้ำโขงได้ไกลสุดลูกหูลูกตา
ที่อยู่ : ตำบลปากชม อำเภอปากชม จังหวัดเลย
เวลาเปิด – ปิด : ทุกวัน
เบอร์โทร : –
เว็บไซต์ : –
เฟซบุ๊ก : –
17.3 ภูทอก อำเภอเชียงคาน
จุดชมวิวที่สามารถมองเห็น แก่งคุดคู้ ภูหมอน ผาแบ่น สายน้ำโขงที่ไหลแนบเชียงคาน ตลอดจนมองเห็นประเทศลาวได้อย่างชัดเจน ยิ่งถ้าใครมาช่วงฤดูหนาวที่นี่จะมีทะเลหมอกสีขาวลอยมาให้เห็นอยู่เบื้องหน้า
ที่อยู่ : ตำบลเชียงคาน อำเภอเชียงคาน จังหวัดเลย
เวลาเปิด – ปิด : ทุกวัน
เบอร์โทร : –
เว็บไซต์ : –
เฟซบุ๊ก : –
17.4 ภูอีเลิศ อำเภอด่านซ้าย
สถานที่ชมสายหมอกสีขาวละมุนอยู่ท่ามกลางร่องภูเขาของทั้งฝั่งไทยและฝั่งประเทศลาว และตรงจุดชมวิวยังมีชะง่อนผาเล็ก ๆ ให้ได้ถ่ายภาพกันด้วย อีกทั้งสภาพอากาศที่นี่หนาวเย็นตลอดทั้งปีด้วย
ที่อยู่ : ตำบล ปากหมัน อำเภอด่านซ้าย เลย
เวลาเปิด – ปิด : ทุกวัน
เบอร์โทร : 063 804 4517
เว็บไซต์ : –
เฟซบุ๊ก : facebook.com/ภูอีเลิศ
18. อุทยานแห่งชาติภูจองนายอย จังหวัดอุบลราชธานี
อุทยานแห่งชาติภูจองนายอย จุดเด่นของการเดินทางมาเที่ยวที่นี่ คือการได้ชมความงามของ น้ำตกห้วยหลวง มีลักษณะเป็นหน้าผาหินที่มีน้ำกระโจนตกจากที่สูงลงสู่แอ่งน้ำเบื้องล่าง โดยบริเวณแอ่งน้ำด้านล่างน้ำตกสามารถลงเล่นน้ำได้ด้วย และจะสวยงามมากที่สุดในช่วงปลายฝนต้นหนาว และยังมีสถานที่ท่องเที่ยวอื่น ๆ ที่น่สนใจ เช่น ภูหินด่าง , พลาญกงเกวียน และแก่งกะเลา เป็นต้น
ที่อยู่ : หมู่ 3 ต.นาจะหลวย อ.นาจะหลวย จ.อุบลราชธานี
เวลาเปิด – ปิด : ทุกวัน 08.30 – 16.30 น.
เบอร์โทร : 064 232 5741
เว็บไซต์ : –
เฟซบุ๊ก : facebook.com/อุทยานแห่งชาติภูจองนายอย Phu Chong Na Yoi National Park
19. ภูกระดึง จังหวัดเลย
ที่เที่ยวหน้าหนาวสุดฮอต ที่ ใคร ๆ ก็อยากจะขึ้นยืนโพสท่าถ่ายรูปเท่ ๆ กับป้ายผู้พิชิตภูกระดึงสักครั้ง สถานที่ท่องเที่ยวภูกระดึงที่น่าสนใจ เช่น ผานกแอ่น , ผาหล่มสัก , ผาหมากดูก และน้ำตกถ้ำใหญ่ เป็นต้น ในช่วงต้นเดือนมกราคมจะแดงฉานด้วยใบเมเปิลที่ร่วงหล่นเกลื่อนพื้นป่า เป็นภาพที่สวยงามมาก
ที่อยู่ : ตำบลศรีฐาน อำเภอภูกระดึง จังหวัดเลย
เวลาเปิด – ปิด : ทุกวัน
เบอร์โทร : 042 810 833
เว็บไซต์ : –
เฟซบุ๊ก : –
ที่เที่ยวหน้าหนาวภาคใต้
20. ควนนกเต้น จังหวัดพัทลุง
ควนนกเต้น จุดชมวิวทะเลหมอกของภาคใต้ ที่จะทำให้นักท่องเที่ยวตื่นตาตื่นใจไปกับทะเลหมอกที่ลอยละล่องท่ามกลางทิวเขาน้อยใหญ่ โดยเฉพาะอย่างยิ่งเวลาช่วงฟ้าหลังฝน หมอกจะยิ่งลงจัด ทั้งยังมีร้านกาแฟเอาไว้ให้นักท่องเที่ยวได้นั่งจิบ พร้อมกับมองดูวิวทะเลหมอก
ที่อยู่ : ตำบล คลองทรายขาว อำเภอ กงหรา พัทลุง
เวลาเปิด – ปิด : ทุกวัน
เบอร์โทร : 066 136 9990
เว็บไซต์ : –
เฟซบุ๊ก : facebook.com/จุดชมวิวควนนกเต้น @พัทลุง
21. อุทยานแห่งชาติหมู่เกาะอ่างทอง จังหวัดสุราษฎร์ธานี
อุทยานแห่งชาติหมู่เกาะอ่างทอง อยู่ในเขตอำเภอสมุย ดินแดนแห่งหมู่เกาะมากมายมีลักษณะเป็นภูเขาหินปูน บางเกาะมีหาดทรายขาวสะอาด สวยงามบางเกาะมีเฉพาะเส้นทางศึกษาธรรมชาติให้ได้เดินขึ้นไปชมทัศนียภาพโดยรอบของหมู่เกาะแห่งนี้
ที่อยู่ : ตำบลอ่างทอง อำเภอเกาะสมุย จังหวัดสุราษฎร์ธานี
เวลาเปิด – ปิด : ทุกวัน
เบอร์โทร : 081 538 2939
เว็บไซต์ : –
เฟซบุ๊ก : facebook.com/อุทยานแห่งชาติหมู่เกาะอ่างทอง – Mu Ko Ang Thong National park
22. เกาะเขาใหญ่ จังหวัดสตูล
เกาะเขาใหญ่ เกาะหินปูนกลางทะเล อยู่ในพื้นที่ของอุทยานแห่งชาติหมู่เกาะเภตรา มีอ่าวที่มีชื่อเสียงคือ “นะปุลา” เป็นชายหาดที่เงียบสงบสวยงาม นอกจากนี้เวลาที่น้ำลดก็จะสามารถลอดช่องหินเข้าไปชมความสวยงามของ “ปราสาทหินพันยอด” สิ่งอัศจรรย์สุดอันซีนที่ธรรมชาติรังสรรค์ขึ้นจากการกัดเซาะหินของน้ำฝน จนกลายเป็นแท่งหินแหลมรูปร่างสวยงามแปลกตาคล้ายกับปราสาทในเทพนิยาย
ที่อยู่ : ตำบล ปากน้ำ อำเภอ ละงู สตูล
เวลาเปิด – ปิด : ทุกวัน
เบอร์โทร :
เว็บไซต์ : –
เฟซบุ๊ก : –
23. เขาศูนย์ จังหวัดนครศรีธรรมราช
จุดชมวิวทะเลหมอกที่สวยมากที่สุดของจังหวัดนครศรีธรรมราช ตั้งอยู่ภายในสถานีถ่ายทอดสัญญาณโทรคมนาคม สามารถมองเห็นวิวทิวทัศน์ของภูเขาบริวารและป่าไม้โดยรอบได้ไกลสุดลูกหูลูกตา ไฮไลต์ของที่นี่คือทะเลหมอกสีขาวกว้างใหญ่ อัดแน่นคล้ายกับผืนผ้านวมสีขาวนุ่ม ๆ ผืนใหญ่ มีอากาศเย็นสบายตลอดทั้งปี มีจุดกางเต็นท์ไว้บริการด้วย
ที่อยู่ : ต.ไม้เรียง อำเภอฉวาง จังหวัดนครศรีธรรมราช
เวลาเปิด – ปิด : ทุกวัน
เบอร์โทร : 080 137 5176
เว็บไซต์ : –
เฟซบุ๊ก : facebook.com/เขาศูนย์ นครศรีธรรมราช
24. ดอยตาปัง จังหวัดชุมพร
ดอยตาปัง ที่นี่เป็นจุดชมวิวที่สวยอันดับต้น ๆ ของชุมพร สามารถมองเห็นทิวเขาน้อยใหญ่ที่อยู่โดยรอบได้อย่างชัดเจน โดยเฉพาะเขาทะลุ อันเป็นสัญลักษณ์ของตำบลเขาทะลุ ยิ่งไปกว่านั้นในช่วงฤดูฝนไปจนถึงปลายฤดูหนาว ที่นี่จะกลายเป็นจุดชมทะเลหมอกสวยอลังการ บรรยากาศโรแมนติก มีจุดกางเต็นท์ให้นักท่องเที่ยวได้ไปนอนชมดาวและทะเลหมอกด้วย
ที่อยู่ : ตำบล เขาทะลุ อำเภอสวี ชุมพร
เวลาเปิด – ปิด : ทุกวัน
เบอร์โทร : 064 641 8825
เว็บไซต์ : –
เฟซบุ๊ก : facebook.com/ดอยตาปัง – Doytapang
25. ทะเลหมอกอัยเยอร์เวง จังหวัดยะลา
ทะเลหมอกอัยเยอร์เวง จุดชมวิวทะเลหมอกที่สวยที่สุดแห่งหนึ่งของภาคใต้ สามารถมองเห็นวิวโดยรอบได้แบบ 360 องศา เต็มอิ่มกับการชมทะเลหมอกแบบหนา ๆ ตั้งแต่ช่วงเช้ามืด เพราะหลังจากพระอาทิตย์ขึ้นไม่เกิน 9 โมงเช้าทะเลหมอกก็จะค่อย ๆ จางหายไป เหลือไว้แต่เพียงผืนป่าอันอุดมสมบูรณ์ขนาดใหญ่
ที่อยู่ : ตำบล อัยเยอร์เวง อำเภอเบตง ยะลา
เวลาเปิด – ปิด : ทุกวัน 05.30 – 16.30 น.
เบอร์โทร : –
เว็บไซต์ : –
เฟซบุ๊ก : –
26. อุทยานแห่งชาติแหลมสน จังหวัดระนอง
อุทยานแห่งชาติแหลมสน อุทยานแห่งชาติทางทะเลที่ครอบคลุมพื้นที่บริเวณหาดแหลมสนและหมู่เกาะใกล้เคียง ร่มรื่นด้วยป่าสนที่ขึ้นเองอย่างเป็นธรรมชาติ มีหาดทรายที่ขาวละเอียด และมีทิวทัศน์ที่สวยงามมาก มีสถานที่ท่องเที่ยวในอุทยาน ได้แก่ หาดบางเบน , เกาะค้างคาว , เกาะกำตก เป็นต้น
ที่อยู่ : ตำบล ม่วงกลาง อำเภอ กะเปอร์ ระนอง
เวลาเปิด – ปิด : ทุกวัน 8.00 – 16.30 น.
เบอร์โทร : 077 861 431
เว็บไซต์ : –
เฟซบุ๊ก : facebook.com/อุทยานแห่งชาติแหลมสน – Laem Son National Park
27. แหลมกระทิง จังหวัดภูเก็ต
จุดชมวิวที่มองเห็นทะเลอันดามันเกือบ 360 องศา สำหรับใครที่อยากเดินทางมายังจุดชมวิวแห่งนี้ อาจต้องเดินทางมาตั้งแต่ช่วงบ่าย ๆ เพราะหากมาหลังพระอาทิตย์ตกจะมืดมาก และเดินลำบาก โดยเริ่มต้นเส้นทางผ่านหาดในหานมาทางอ่าวเสน หรือจะเริ่มต้นที่อ่าวเสน หรือเดินขึ้นไปทางกำแพงเล็ก ๆ ก่อนถึงบ้านกระทิงรีสอร์ทก็ได้
ที่อยู่ : แหลมกระทิง ตำบลกะรน อำเภอเมืองภูเก็ต จังหวัดภูเก็ต
เวลาเปิด – ปิด : ทุกวัน
เบอร์โทร : –
เว็บไซต์ : –
เฟซบุ๊ก : –
28. ทะเลหน้าหนาว
หน้าหนาวก็เที่ยวทะเลได้ เพราะช่วงเวลาแบบนี้ทะเลทางฝั่งอันดามันต่าง ๆ เริ่มเปิดเกาะให้ท่องเที่ยวกันอีกครั้งแล้ว ไม่ว่าจะเป็นหมู่เกาะสิมิลัน หมู่เกาะสุรินทร์ หมู่เกาะพีพี วันนี้เราก็ได้รวบรวมมาแนะนำกัน
28.1 เกาะปอดะ
เกาะมีหาดทรายที่สวยงาม สะอาดสะอ้าน เนื้อทรายเป็นสีขาว ถ้าไปเที่ยวช่วงหน้าหนาวท้องทะเลก็จะใส จึงสามารถมองเห็นผืนทรายใต้น้ำได้เช่นกัน โดยรอบ ๆ เกาะมีน้ำทะเลสวยใสล้อมรอบ มีปลาทะเลมากมายให้ได้ไปว่ายน้ำชมกันเพลิน ๆ
ที่อยู่ : อยู่ในอุทยานแห่งชาติหาดนพรัตน์ธารา ตำบลอ่าวนาง อำเภอเมืองกระบี่ จังหวัดกระบี่
เวลาเปิด – ปิด : ทุกวัน (สามารถขึ้นเรือได้ที่บริเวณอ่าวนาง หรือหาดนพรัตน์ธารา)
เบอร์โทร :
เว็บไซต์ : –
เฟซบุ๊ก : –
28.2 เกาะไผ่
เกาะเล็ก ๆ อยู่ทางด้านตะวันออกเฉียงเหนือของเกาะพีพีดอน อยู่ในความดูแลของอุทยานแห่งชาติหาดนพรัตน์ธารา-หมู่เกาะพีพี ยังไม่เป็นที่รู้จักของนักท่องเที่ยวมากนัก หาดทรายที่นี่จึงยังคงขาวสะอาด เนื้อทรายเนียนเป็นผุยผงบางเบา บางจุดจะเป็นปะการังที่ทับถมกัน ดูแปลกตา
ที่อยู่ : อุทยานแห่งชาติหาดนพรัตน์ธารา-หมู่เกาะพีพี
เวลาเปิด – ปิด : ทุกวัน
เบอร์โทร : –
เว็บไซต์ : –
เฟซบุ๊ก : –
28.3 เกาะไข่
เกาะไข่ เป็นส่วนหนึ่งของอุทยานแห่งชาติหมู่เกาะตะรุเตา สัญลักษณ์ของเกาะแห่งนี้ก็คือซุ้มประตูหินธรรมชาติ ที่เป็นโค้งสวยงาม เบื้องล่างเป็นหาดทรายขาวเนียนละเอียด เนื้อทรายนุ่ม เวลาที่เดินย่ำลงไปบนผืนทรายจะสัมผัสได้เลยว่าเนื้อทรายละเอียดและเนียนนุ่ม
ที่อยู่ : อุทยานแห่งชาติหมู่เกาะตะรุเตา
เวลาเปิด – ปิด : ทุกวัน
เบอร์โทร :
เว็บไซต์ : –
เฟซบุ๊ก :-
28.4 เกาะสิมิลันหรือเกาะแปด
เกาะสิมิลัน เป็นเกาะที่ใหญ่ที่สุดของหมู่เกาะสิมิลัน มีความพิเศษอยู่ที่อ่าวเกือก อันเป็นที่ตั้งของหินเรือใบสัญลักษณ์สำคัญของหมู่เกาะสิมิลัน และบริเวณนี้ยังมีหาดทรายที่ขาวสะอาดสวยงาม เนื้อทรายเนียนนุ่ม น้ำทะเลก็สวยไม่แพ้กัน
ที่อยู่ : ตำบลเกาะพระทอง อำเภอคุระบุรี จังหวัดพังงา
เวลาเปิด – ปิด : ทุกวัน
เบอร์โทร : –
เว็บไซต์ : –
เฟซบุ๊ก : –
28.5 อ่าวปิเละ
สถานที่ท่องเที่ยวของกระบี่ที่ถูกยกย่องให้เป็นอัญมณีที่สวยงามแห่งท้องทะเลอันดามัน เทียบเท่ากับอ่าวมาหยา ที่นี่มีลักษณะเป็นร่องภูเขาเข้าไปในตัวเกาะ ซึ่งน้ำทะเลบริเวณนี้จะสวยใสเป็นลากูนสีฟ้าเทอร์ควอยซ์งดงาม เหมาะแก่การดำน้ำชมปะการังและว่ายน้ำชมความสวยงามบริเวณรอบ ๆ
ที่อยู่ : เกาะพีพี ตำบล อ่าวนาง อำเภอเมืองกระบี่ กระบี่
เวลาเปิด – ปิด : ทุกวัน
เบอร์โทร : –
เว็บไซต์ : –
29. คลองปากประ จังหวัดพัทลุง
ดื่มด่ำวิวธรรมชาติสวย ๆ ที่ปากประ ทะเลสาบผืนน้อยของพัทลุง ภาพวิถีชีวิตประมงพื้นบ้าน การยกยอ พร้อมกับแสงแรกของพระอาทิตย์ขึ้นยามเช้าล้วนเป็นภาพความสวยงามที่เราทั้งหลายต่างตั้งหน้าตั้งตารอคอยได้พบเจอ รวมถึงยังเป็นสวรรค์ของเหล่าบรรดานักถ่ายภาพทั้งมืออาชีพและมือสมัครเล่นอีกด้วย
ที่อยู่ : บ้านปากประ ตำบลพนางตุง อำเภอควนขนุน จังหวัดพัทลุง
เวลาเปิด – ปิด : ทุกวัน
เบอร์โทร : –
เว็บไซต์ : –
เฟซบุ๊ก : –
ที่เที่ยวหน้าหนาวภาคกลาง
30. ยอดเขาโมโกจู จังหวัดกำแพงเพชร
ยอดเขาโมโกจู เส้นทางเดินป่าที่หฤโหดอันดับต้น ๆ ของเมืองไทย มีความสูงมากถึง 1,964 เมตร ซึ่งตลอดระยะทางมากกว่า 50 กิโลเมตรนั้น ทั้งสองข้างทางเต็มไปด้วยธรรมชาติที่อุดมสมบูรณ์ ยังไม่มีสิ่งอำนวยความสะดวกมากนัก และต้องใช้เวลาเดินทางไป-กลับถึง 5 วัน จึงยังไม่เป็นที่นิยม มีเพียงนักท่องเที่ยวที่รักการผจญภัยเท่านั้นที่จะไปเที่ยวยังเส้นทางนี้
ที่อยู่ : อุทยานแห่งชาติแม่วงก์ ตำบล ปางตาไว อำเภอ ปางศิลาทอง กำแพงเพชร
เวลาเปิด – ปิด : ทุกวัน
เบอร์โทร : 090 457 9291
เว็บไซต์ : –
เฟซบุ๊ก : facebook.com/อุทยานแห่งชาติแม่วงก์ Mae Wong National Park
31. บึงบอระเพ็ด จังหวัดนครสวรรค์
บึงบอระเพ็ด บึงน้ำจืดขนาดใหญ่ที่สุดแห่งหนึ่งของเมืองไทย ครอบคลุมพื้นที่ 3 อำเภอ ได้แก่ อำเภอเมืองนครสวรรค์ อำเภอท่าตะโก และอำเภอชุมแสง นอกจากจะเป็นแหล่งที่อยู่อาศัยของสัตว์น้ำมากกว่า 148 ชนิด พืชกว่า 44 ชนิดแล้ว ที่นี่ยังมีทัศนียภาพที่สวยงาม นอกจากนี้ยังมีทะเลบัวสีชมพูสดใสให้ได้เที่ยวชมกันอีกด้วย
ที่อยู่ : ตำบลพระนอน อำเภอเมือง จังหวัดนครสวรรค์
เวลาเปิด – ปิด : ทุกวัน 10.00 – 17.00 น.
เบอร์โทร : 056 274 525
เว็บไซต์ : –
เฟซบุ๊ก : facebook.com/แหล่งท่องเที่ยวบึงบอระเพ็ด นครสวรรค์
32. อุทยานแห่งชาติพุเตย จังหวัดสุพรรณบุรี
อุทยานแห่งชาติพุเตย เป็นอีกหนึ่งสวรรค์ของคนตามล่าสายหมอก และชอบเที่ยวธรรมชาติ ภายในอุทยานแห่งชาติพุเตยมีสิ่งที่น่าสนใจมากมาย อาทิ น้ำตกพุกระทิง, น้ำตกตะเพินคี่ใหญ่-น้อย, ถ้ำตะเพินเงิน, ถ้ำตะเพินเพชร, ป่าสนสองใบ เป็นต้น แต่ที่ห้ามพลาดเลยก็คือ ยอดเขาเทวดา โดยเฉพาะในช่วงปลายฤดูฝน ยาวไปจนถึงปลายฤดูหนาว ก็จะมีทะเลหมอกให้ได้ชมกันอย่างจุใจ
ที่อยู่ : ตำบล วังยาว อำเภอด่านช้าง สุพรรณบุรี
เวลาเปิด – ปิด : ทุกวัน 8.00 – 18.00 น.
เบอร์โทร : 035 960 240
เว็บไซต์ : –
เฟซบุ๊ก : –
33. อำเภอด่านช้าง จังหวัดสุพรรณบุรี
อำเภอด่านช้าง ที่นี่มีอากาศเย็นสบายตลอดทั้งปี มีสถานที่ท่องเที่ยวน่าสนใจ เช่น อุทยานแห่งชาติพุเตย, เขื่อนกระเสียว, ถ้ำเวฬุวัน, หาดทรายท้ายเขื่อนกระเสียว, อ่างเก็บน้ำหุบเขาวง และอ่างเก็บน้ำห้วยท่าเดื่อ เป็นต้น
ที่อยู่ : อำเภอด่านช้าง จังหวัดสุพรรณบุรี
เวลาเปิด – ปิด : ทุกวัน
เบอร์โทร : –
เว็บไซต์ : –
เฟซบุ๊ก : –
34. แก่นมะกรูด จังหวัดอุทัยธานี
แก่นมะกรูด แหล่งท่องเที่ยวธรรมชาติที่อยู่ไม่ไกลจากกรุงเทพฯ ใครที่อยากจะสัมผัสอากาศเย็น ๆ และบรรยากาศป่าเขาแบบเมืองเหนือ คุณจะได้สัมผัสกันที่บ้านแก่นมะกรูดแห่งนี้นี่แหละ อีกทั้งยังมีเทศกาลดอกไม้เมืองหนาวให้ได้เที่ยวชมกันตลอดในช่วงหน้าหนาวของแต่ละปี บอกเลยว่าความอลังการไม่แพ้ทางภาคเหนือของไทยเลย
ที่อยู่ : หมู่บ้านแก่มะกรูด อำเภอบ้านไร่ จังหวัดอุทัยธานี
เวลาเปิด – ปิด : ทุกวัน
เบอร์โทร : 056 511 297
เว็บไซต์ : –
เฟซบุ๊ก : facebook.com/แก่นมะกรูด หนาวสุดกลางสยาม โดย อบจ.อุทัยธานี
35. จุดชมวิวดอยเขามุ้ง จังหวัดสุโขทัย
จุดชมวิวดอยเขามุ้ง ดอยที่มีความสวยงามของจังหวัดสุโขทัย ด้านบนสามารถมองเห็นวิวของขุนเขาน้อยใหญ่ได้ไกลสุดลูกหูลูกตา ในตอนเช้าจะได้เห็นพระอาทิตย์ขึ้นสวยงามมาก ยิ่งถ้าไปเที่ยวช่วงหน้าหนาว ก็จะได้เห็นทะเลหมอกลอยละล่องคลอเคลียกับยอดเขา มีแสงแดดบางเบาค่อย ๆ ฉาบทาไปทั่วผืนปุยหมอก อากาศเย็นฉ่ำใจ เหมาะแก่การมาชาร์จพลังงานมาก
ที่อยู่ : ดอยเขามุ้ง ตำบล แม่สำ อำเภอศรีสัชนาลัย สุโขทัย
เวลาเปิด – ปิด : ทุกวัน
เบอร์โทร : 081 936 4627 / 081 674 3213 / 095 447 1623 / 093 180 3044
เว็บไซต์ : –
เฟซบุ๊ก : facebook.com/ดอยเขามุ้ง
36. ทุ่งทานตะวันจังหวัดลพบุรีและจังหวัดสระบุรี
ทุ่งทานตะวันจังหวัดลพบุรีและจังหวัดสระบุรี เส้นทางดอกไม้หน้าหนาวที่หลายคนเฝ้ารอคอย ซึ่งส่วนใหญ่แล้วดอกทานตะวันจะเบ่งบานในเดือนพฤศจิกายนจนถึงมกราคม ของทุกปี
36.1 ทุ่งทานตะวันเขาจีนแล จังหวัดลพบุรี
สถานที่ที่มีการเพาะปลูกทานตะวันมากที่สุดในประเทศไทย โดยปกติแล้วทุ่งดอกทานตะวันจะเริ่มเบ่งบานรอต้อนรับนักท่องเที่ยวในช่วงเดือนพฤศจิกายนไปจนถึงเดือนมกราคม
ที่อยู่ : ทางหลวงหมายเลข 3017 ตำบลนิคมสร้างตนเอง อำเภอเมืองลพบุรี ลพบุรี
เวลาเปิด – ปิด : ทุกวัน 8.00 – 18.00 น.
เบอร์โทร : 064 879 5655
เว็บไซต์ : –
เฟซบุ๊ก : facebook.com/ทุ่งทานตะวันบานเขาจีนแล ลพบุรี
36.2 ทุ่งทานตะวัน จังหวัดสระบุรี
มีพื้นที่ปลูกทานตะวันอยู่หลายอำเภอ ได้แก่ ตำบลเขาดินพัฒนา อำเภอเฉลิมพระเกียรติ, ตำบลนายาว อำเภอพระพุทธบาท, ตำบลหินซ้อน อำเภอแก่งคอย, ตำบลแสลงพัน อำเภอวังม่วง, ตำบลบ้านกล้วย อำเภอหนองโดน และตำบลมิตรภาพ อำเภอมวกเหล็ก เป็นต้น โดยดอกทานตะวันจะบานเต็มที่ตั้งแต่ช่วงเดือนธันวาคมถึงมกราคม ของทุกปี
ที่อยู่ : หลายอำเภอ ในจังหวัดสระบุรี
เวลาเปิด – ปิด : ทุกวัน
เบอร์โทร : –
เว็บไซต์ : –
เฟซบุ๊ก : –
37. จุดชมวิวบ้านชายเขา จังหวัดอุทัยธานี
จุดชมวิวบ้านชายเขา ที่เที่ยวอุทัยธานีที่เหมาะแก่การไปเยือนในช่วงหน้าหนาว สถานที่ที่นักท่องเที่ยวจะได้ชมความยิ่งใหญ่อลังการของภูเขาหินปูนรูปร่างสวยงามแปลกตา ที่รายล้อมอยู่รอบ ๆ ไร่สวนของชาวบ้าน บรรยากาศเงียบสงบ น่าประทับใจ จนหลาย ๆ คนตั้งฉายาให้ว่าสวิตเซอร์แลนด์เมืองไทย โดยเฉพาะหน้าหนาว อากาศจะเย็นฉ่ำใจ มีสายหมอกยามเช้าให้ได้ชมกัน
ที่อยู่ : ตำบล ทุ่งนางาม อำเภอลานสัก อุทัยธานี
เวลาเปิด – ปิด : ทุกวัน
เบอร์โทร : 085 731 0853
เว็บไซต์ : –
เฟซบุ๊ก : facebook.com/บ้านชายเขา สวิตเซอร์แลนด์เมืองไทย
38. บ้านน้ำจวง จังหวัดพิษณุโลก
บ้านน้ำจวง เจ้าของฉายาซาปาเมืองไทย กับภาพของนาขั้นบันไดที่ลดหลั่นกันลงมาตามไหล่เขา มีอากาศเย็นสบายตลอดทั้งปี อีกทั้งที่นี่ยังเป็นที่ตั้งของโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริ น้ำจวงโมเดล โดยหมู่บ้านดังกล่าวได้มีการส่งเสริมการท่องเที่ยวแบบสัมผัสธรรมชาติ และวิถีชีวิตชาวเขาเผ่าม้งที่บ้านน้ำจวง ซึ่งเป็นหมู่บ้านที่เป็นภูเขาสูง สภาพอากาศเย็นตลอดทั้งวัน
ที่อยู่ : ตำบล บ่อภาค อำเภอชาติตระการ พิษณุโลก
เวลาเปิด – ปิด : ทุกวัน
เบอร์โทร : 091 063 3233
เว็บไซต์ : –
เฟซบุ๊ก : –
ที่เที่ยวหน้าหนาวภาคตะวันออก
39. หมู่เกาะเหลายา จังหวัดตราด
หมู่เกาะเหลายา เกาะเล็ก ๆ ที่ตั้งอยู่ทางตอนใต้ของเกาะช้าง แบ่งออกเป็น 3 เกาะย่อย คือ เกาะเหลายานอก มีลักษณะเป็นโขดหิน ไม่มีหาดทราย เกาะเหลายากลาง เกาะที่มีทิวทัศน์สวยงาม สามารถมองเห็นความงดงามของเกาะช้างได้และเกาะเหลายาใน เป็นเกาะที่ใหญ่ที่สุดในบรรดาเกาะทั้งหมด หาดทรายขาว น้ำทะเลใส และมีจุดชมปะการังที่สวยงาม
ที่อยู่ : อยู่ทางตอนใต้ของเกาะช้าง จังหวัดตราด
เวลาเปิด – ปิด : ทุกวัน
เบอร์โทร : –
เว็บไซต์ : –
เฟซบุ๊ก :
40. เกาะหมาก จังหวัดตราด
เกาะหมาก ที่นี่บรรยากาศค่อนข้างเงียบสงบ มีน้ำทะเลใสแจ๋ว จะเล่นน้ำหรือชมปะการังสวย ก็ทำได้จุใจ สำหรับกิจกรรมห้ามพลาดบนเกาะหมากคือการดำน้ำ ซึ่งจุดที่สามารถดำน้ำชมปะการังได้อย่างสวยงาม ได้แก่ บริเวณหมู่เกาะรัง, เกาะยักษ์ใหญ่, เกาะยักษ์เล็ก และเกาะมะปริง เป็นต้น
ที่อยู่ : อยู่ระหว่าง เกาะช้างกับเกาะกูด
เวลาเปิด – ปิด : ทุกวัน
เบอร์โทร : –
เว็บไซต์ : –
เฟซบุ๊ก : –
41. ทุ่งเพล จังหวัดจันทบุรี
ทุ่งเพล เป็นชุมชนเล็ก ๆ ที่ยังคงไว้ซึ่งวิถีชีวิตความเป็นอยู่ของผู้คนและธรรมชาติเอาไว้ได้อย่างน่าสนใจ เพราะสภาพพื้นที่ส่วนใหญ่ยังคงเป็นเนินเขา มีลำธารไหลผ่าน อีกทั้งชาวบ้านส่วนใหญ่ก็ยังคงทำสวนผลไม้ มีทั้งทุเรียน ลองกอง และมะไฟ รวมถึงเก็บของป่ามาขาย โดยรวมแล้วธรรมชาติของทุ่งเพลยังคงมีความสมบูรณ์อยู่มากเลยทีเดียว
ที่อยู่ : หมู่บ้านทุ่งเพล ตำบลฉมัน อำเภอมะขาม จังหวัดจันทบุรี
เวลาเปิด – ปิด : ทุกวัน
เบอร์โทร : –
เว็บไซต์ : –
เฟซบุ๊ก : –
42. เขาแหลมหญ้า จังหวัดระยอง
เขาแหลมหญ้า มีลักษณะพื้นดินที่มีรูปทรงแหลมยื่นออกไปในทะเล ที่จะมีแต่เพียงหญ้าขึ้นเท่านั้น กิจกรรมที่นักท่องเที่ยวให้ความสนใจก็อย่างเช่น ถ่ายรูปกับสะพานยาว มีเส้นทางเดินศึกษาธรรมชาติ นอกจากนี้ยังมีสิ่งอำนวยความสะดวกอื่น ๆ เช่น มีลานกางเต็นท์และเต็นท์ให้เช่าภายในอุทยาน มีห้องพักให้เช่า และห้องอาบน้ำไว้คอยบริการ
ที่อยู่ : ตำบลเพ อำเภอเมืองระยอง ระยอง
เวลาเปิด – ปิด : ทุกวัน 8.00 – 18.00 น.
เบอร์โทร : 038 653 034
เว็บไซต์ : –
เฟซบุ๊ก : facebook.com/อุทยานแห่งชาติเขาแหลมหญ้า – หมู่เกาะเสม็ด
43. ผาหินกูบ จังหวัดจันทบุรี
ผาหินกูบ มีจุดชมวิวที่สวยงามแปลกตา บริเวณผาหินกูบจะสามารถมองเห็นผืนป่าสีเขียวสุดกว้างใหญ่ และยอดเขาน้อยใหญ่ในเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าเขาสอยดาว ตลอดเส้นทางเดินป่าจะพบกับธรรมชาติที่หลากหลาย ทั้งลำธาร ถ้ำ ป่าไผ่ ฯลฯ ถ้าไปเที่ยวในช่วงปลายฝนต้นหนาวจะได้เห็นทะเลหมอกบริเวณจุดชมวิวเขาหินกูบอีกด้วย
ที่อยู่ : ตำบล ตะเคียนทอง อำเภอ เขาคิชฌกูฏ จันทบุรี
เวลาเปิด – ปิด : ทุกวัน
เบอร์โทร : 093 989 7273
เว็บไซต์ : –
เฟซบุ๊ก : facebook.com/จุดชมวิวผาหินกูบ จ.จันทบุรี
44. หาดบางเสร่ จังหวัดชลบุรี
หาดบางเสร่ มีลักษณะเป็นชายหาดยาว บริเวณชายหาดมีทิวต้นมะพร้าวให้ความร่มรื่น บรรยากาศเงียบสงบมาก ตลอดแนวชายหาดจะมีถนนเลียบชายหาด สามารถขับรถชมวิวได้แบบชิล ๆ หรือใครอยากจะมานอนพักผ่อนสูดอากาศดี ๆ ริมทะเล ในบางเสร่ก็มีที่พักหลากหลายแบบไว้คอยบริการอีกด้วย
ที่อยู่ : ตำบลบางเสร่ อำเภอสัตหีบ จังหวัดชลบุรี
เวลาเปิด – ปิด : ทุกวัน-
เบอร์โทร : –
เว็บไซต์ : –
เฟซบุ๊ก : –
45. เกาะสีชัง จังหวัดชลบุรี
เกาะสีชัง สถานที่ตากอากาศแสนคลาสสิก ท่ามกลางธรรมชาติที่สวยงาม บรรยากาศแสนสงบ และอากาศที่บริสุทธิ์ นอกจากทะเลสวย ๆ แล้วภายในเกาะสีชังยังมีที่เที่ยวอื่น ๆ มากมาย เช่น พระจุฑาธุชราชฐาน ศาลเจ้าพ่อเขาใหญ่ ช่องเขาขาด และหาดถ้ำเขาพัง เป็นต้น นับเป็นอีกหนึ่งเกาะท่องเที่ยวที่น่าสนใจ และไม่ควรพลาดเลย
ที่อยู่ : อำเภอเกาะสีชัง จังหวัดชลบุรี
เวลาเปิด – ปิด : ทุกวัน
เบอร์โทร : –
เว็บไซต์ : –
เฟซบุ๊ก : –
ที่เที่ยวหน้าหนาวภาคตะวันตก
46. บ้านป่าหมาก จังหวัดประจวบคีรีขันธ์
บ้านป่าหมาก ชุมชนของพี่น้องชาวกะเหรี่ยงที่อยู่ท่ามกลางป่าเขาอันอุดมสมบูรณ์ ประกอบอาชีพเกษตรกรรมเป็นหลัก โดยพืชพรรณที่เป็นดาวเด่นของที่นี่ ก็คือ กาแฟพันธุ์โรบัสต้า ที่ชาวบ้านปลูกกันแบบอินทรีย์ไม่มีสารพิษ
และด้วยอากาศเย็นสบายผู้นำชุมชนและชาวบ้านได้ร่วมกันพัฒนาให้มีจุดกางเต็นท์ริมลำธารไว้ให้นักท่องเที่ยวได้ไปพักผ่อน ไม่มีสิ่งอำนวยความสะดวกใด ๆ มากนัก รวมทั้งยังไม่มีไฟฟ้าด้วย
ที่อยู่ : บ้านป่าหมาก ต.ศาลาลัย อ.สามรอยยอด จังหวัดประจวบคีรีขันธ์
เวลาเปิด – ปิด : ทุกวัน
เบอร์โทร : –
เว็บไซต์ : –
เฟซบุ๊ก : facebook.com/ท่องเที่ยวชุมชนบ้านป่าหมาก ลานกางเต็นท์
47. หมู่บ้านโป่งลึก-บางกลอย จังหวัดเพชรบุรี
หมู่บ้านโป่งลึก-บางกลอย หมู่บ้านเล็ก ๆ ของชุมชนชาวปกาเกอะญอที่ยังคงวิถีคนและป่าเอาไว้อย่างแน่นแฟ้น อยู่ห่างจากที่ทำการอุทยานแห่งชาติแก่งกระจาน ประมาณ 30 กิโลเมตร เป็นพื้นที่ที่ตัดขาดจากสัญญาณโทรศัพท์ รวมถึงยังไม่มีร้านค้า ร้านอาหาร หรือสิ่งอำนวยความสะดวกใด ๆ ดังนั้นใครจะมาเที่ยว แนะนำว่าให้เตรียมตัวซื้อเสบียงข้าวของต่าง ๆ เอาไว้ให้พร้อม
ที่อยู่ : ตำบล ห้วยแม่เพรียง อำเภอแก่งกระจาน เพชรบุรี
เวลาเปิด – ปิด : ทุกวัน
เบอร์โทร : –
เว็บไซต์ : –
เฟซบุ๊ก : facebook.com/โป่งลึก-บางกลอย เที่ยวชมธรรมชาติ วิถีชีวิตชาวปกาเกอะญอ
48. จุดชมวิวห้วยคอกหมู จังหวัดราชบุรี
จุดชมวิวห้วยคอกหมู สุดเขตดินแดนสยาม แต่เดิมเป็นช่องทางการค้าไม้ที่รับสัมปทานการค้าระหว่างไทย-เมียนมา ปัจจุบันนี้การค้าระหว่างไทย-เมียนมา ได้ถูกยกเลิกไปแล้ว เส้นทางนี้จึงได้มีการพัฒนาปรับปรุงเป็นเส้นทางการท่องเที่ยวชมวิวภูเขาและชายแดนไทย-เมียนมา บนจุดชมวิวห้วยคอกหมูนี้สามารถมองเห็นภูมิประเทศอันสวยงามของเทือกเขาตะนาวศรีและชายแดนเมียนมา พร้อมกับสัมผัสกับอากาศที่หนาวเย็นและนกนานาชนิด โดยเฉพาะในช่วงฤดูหนาวจะมีหมอกปกคลุมหนาแน่น
ที่อยู่ : กองร้อยตำรวจตะเวนชายแดนที่ 137 ที่ อำเภอสวนผึ้ง จังหวัดราชบุรี
เวลาเปิด – ปิด : ทุกวัน
เบอร์โทร : –
เว็บไซต์ : –
เฟซบุ๊ก : –
49. เขาสันหนอกวัว จังหวัดกาญจนบุรี
เขาสันหนอกวัว ยอดเขาสูงในเขตอุทยานแห่งชาติเขาแหลม การขึ้นไปยังยอดเขาจะต้องเดินป่าระยะไกลไปตามเส้นทางศึกษาธรรมชาติ ระยะทางประมาณ 12 กิโลเมตร ใช้เวลาเดินไม่ต่ำกว่า 5 ชั่วโมง จึงจำเป็นต้องนอนค้างบนเขา 1 คืน แต่ก็ถือว่าคุ้มค่า เพราะวิวบนยอดเขานั้นงดงามแปลกตา สามารถมองเห็นทะเลหมอกได้อย่างสวยงามตระการตา และสามารถชมพระอาทิตย์ขึ้นได้แบบสวยสุด ๆ
ที่อยู่ : อุทยานแห่งชาติเขาแหลม อำเภอสังขละบุรี จังหวัดกาญจนบุรี
เวลาเปิด – ปิด : ทุกวัน
เบอร์โทร : 034 510 431
เว็บไซต์ : –
เฟซบุ๊ก : facebook.com/อุทยานแห่งชาติเขาแหลม – Khao Laem National Park
50. พิชิต 3 ดอยวิวสวยในจังหวัดตาก
อีกหนึ่งจังหวัดที่มีความสมบูรณ์ทางธรรมชาติ แถมยังสามารถเที่ยวได้ตลอดทั้งปี หลาย ๆ คนรู้จักจังหวัดตากเพราะ น้ำตกทีลอซู หรือ ตลาดริมเมย” แต่ตากยังมีที่เที่ยวดี ๆ มากมายซ่อนอยู่ ซึ่งวันนี้เราก็ได้รวบรวมมาแนะนำกัน
50.1 ดอยหลวงตาก
ดอยสันเขาสวยที่ทอดตัวบนสันขอบอุทยานแห่งชาติตากสินมหาราช ต้องจะใช้เวลาพิชิตดอยหลวงตากประมาณ 6-7 ชั่วโมง พร้อมกับชื่นชมธรรมชาติสวยตั้งแต่ป่าไผ่ ป่าเต็งรัง มีจุดชมวิวสองจุด
คือ เขาหน้าลิง และ โล้นหลวง
ที่อยู่ : ต.ทุ่งกระเชาะ อ.บ้านตาก จ.ตาก
เวลาเปิด – ปิด : ทุกวัน
เบอร์โทร : –
เว็บไซต์ : –
เฟซบุ๊ก : –
50.2 ดอยทูเล หรือม่อนทูเล
ภูเขาที่สูงที่สุดในอำเภอท่าสองยาง ในช่วงหน้าหนาวกลางเดือนพฤศจิกายน-มกราคม ของทุกปี ทุ่งหญ้าเขียวขจีจะเปลี่ยนเป็นทุ่งสีทองท่ามกลางทะเลหมอกและมีอากาศหนาวเย็น เหมาะสำหรับการกางเต็นท์นอนชมดาวและเก็บภาพอาทิตย์ขึ้นและตกดิน
ที่อยู่ : บ้านแม่จวาง ต.ท่าสองยาง อ.ท่าสองยาง จ.ตาก
เวลาเปิด – ปิด : ทุกวัน
เบอร์โทร : –
เว็บไซต์ : –
เฟซบุ๊ก : –
50.3 ดอยสอยมาลัย
ที่นี่นักท่องเที่ยวสามารถมองเห็นทะเลหมอกยามเช้าที่สวยงาม ทางขึ้นดอยสอยมาลัยจะอยู่ติดกับศูนย์บริการนักท่องเที่ยวจุดลงทะเบียน โดยเส้นทางระยะแรกเป็นดินโคลนแดง สลับกับทางเริ่มชันขึ้นพอประมาณ นอกจากนี้ที่นี่ยังเป็นถิ่นอาศัยของซาลาแมนเดอร์ หรือจิ้งจกน้ำ เป็นสัตว์ดึกดำบรรพ์ที่พบเห็นได้ยากอีกด้วย
ที่อยู่ : ต.ตากออก อ.บ้านตาก จ.ตาก
เวลาเปิด – ปิด : ทุกวัน
เบอร์โทร : 096 402 9013
เว็บไซต์ : –
เฟซบุ๊ก : facebook.com/อุทยานแห่งชาติดอยสอยมาลัย – Doi Soi Malai National Park
เป็นยังไงกันบ้างคะ กับ 50 ที่เที่ยวหน้าหนาว ในเมืองไทย ที่เรารวบรวมมาฝากกัน แต่ละที่สวย และมีเสน่ห์ไม่แพ้กันเลย ในช่วงหน้าหนาวนี้ ใครอยากลองไปสัมผัสอากาศหนาว เก็บลิสต์นี้เอาไว้ได้เลยค่ะ